แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานปลอมหนังสือ ศาลได้พิพากษายกฟ้อง โดยเห็นว่าฟ้องเคลือบคลุม โจทก์จึงฟ้องจำเลยหาว่า ปลอมหนังสืออันเป็นความผิดเรื่องเดียวกันในคดีก่อน ศาลสอบถามโจทก์ถึงข้อที่จำเลยคัดค้านเรื่องฟ้องเคลือบคลุมไม่ชัดแจ้ง โจทก์กลับยืนยันว่า ได้บรรยายฟ้องเพียงพอที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว เท่ากับโจทก์ยืนยันขอให้วินิจฉัยคดีว่า จำเลยจะมีความผิดตามคำกล่าวในฟ้องของโจทก์หรือไม่ ศาลก็ได้วินิจฉัยข้อหาตามที่โจทก์กล่าวในฟ้องเสร็จเด็ดขาดไปแล้ว โจทก์จะรื้อฟื้นความผิดของจำเลยที่ได้ฟ้องจำเลยแล้วมาฟ้องอีกไม่ได้.
ย่อยาว
เดิมอัยยการฟ้องจำเลยหาว่า ปลอมหนังสือ ศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ และศาลฎีกาพิพากษาต้องกัน ให้ยกฟ้องโจทก์ โดยเห็นว่าฟ้องโจทก์เคลือบคลุม ไม่บรรยายข้อเท็จจริงพอสมควรที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี ตาม ป.ม.วิ.อาญา มาตรา ๑๕๘ ข้อ ๕ ต่อมาอัยยการกลับฟ้องจำเลยหาว่าปลอมหนังสือในความผิดที่ได้ฟ้องแล้วในคดีเรื่องก่อนนั้นเอง เป็นแต่เปลี่ยนแปลงถ้อยคำที่กล่าวในฟ้องบางแห่ง และยืนยันว่า ได้ฟ้องจำเลยตามคดีแดง ๔๔๓/๒๔๘๙ ศาลพิพากษายกฟ้อง ปล่อยตัวจำเลย จึงได้ฟ้องใหม่อีก จำเลยให้การปฏิเสธว่า ไม่ได้กระทำผิด และตัดฟ้องว่าได้มีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดแล้ว ฟ้องใหม่ไม่ได้ และฟ้องใหม่ก็ยังคงเคลือบคลุมไม่ชัดเจน ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา,
ศาลฎีกาเห็นว่า คดีก่อนกับคดีนี้เป็นเรื่องเดียวกัน จำเลยก็คนเดียวกัน ถูกฟ้องหาในความผิดที่ได้ถูกฟ้องมาแล้วนั้นเอง นคดีก่อนศาลสอบถามโจทก์ถึงข้อที่จำเลยคัดค้านเรื่องฟ้องเคลือบคลุมไม่ชัดแจ้ง โจทก์กลับยืนยันว่าได้บรรยายฟ้องเพียงพอที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว เท่ากับโจทก์ยืนยันขอให้วินิจฉัยคดีว่าจำเลยจะมีความผิดตามคำกล่าวในฟ้องของโจทก์หรือไม่ ศาลก็ได้วินิจฉัยข้อหาตามที่โจทก์กล่าวในฟ้องเสร็จเด็ดขาดไปแล้ว โจทก์จะรื้อฟื้นความผิดของจำเลยที่ได้ฟ้องแล้ว มาฟ้องอีกไม่ได้
พิพากษายืน.