คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 743/2506

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกู้เงินไป 9,500 บาทจำเลยให้การว่า กู้จริงเพียง 500 บาท จำนวนเงินตามสัญญากู้โจทก์ปลอมขึ้น ขอให้ยกฟ้องหรือถ้าจะให้จำเลยรับผิดก็เพียงในจำนวนเงิน 500 บาทที่จำเลยเอาไป ดังนี้ แม้โจทก์จะสืบไม่ได้สมฟ้อง จำเลยก็ยังคงต้องรับผิดใช้เงินเท่าที่ให้การรับ.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๐๐จำเลยที่ ๑ ยืมเงินโจทก์ไป ๙,๕๐๐ บาท รับเงินไปครบแล้ว สัญญาให้ดอกเบี้ยตามกฎหมาย กำหนดส่งใช้เงินคืนภายในวันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๐๑ จำเลยที่ ๒ เป็นผู้ค้ำประกัน ถึงกำหนดโจทก์ทวงถามจำเลยก็ผัดผ่อนจึงขอให้ศาลบังคับ
จำเลยให้การว่า จำเลยที่ ๑ มิได้กู้เงินโจทก์ และจำเลยที่ ๒ มิได้ค้ำประกันจำนวนเงิน ๙,๕๐๐ บาทดังฟ้อง จำเลยที่ ๑เคยยืมเงินโจทก์เพียง ๕๐๐ บาท จำเลยที่ ๒ เป็นผู้ค้ำประกัน จำเลยเพียงแต่ลงนามในสัญญากู้และสัญญาค้ำประกันเท่านั้น มิได้กรอกจำนวนเงินและไม่มีชื่อผู้เขียนกับพยานแต่อย่างใด จำนวนเงินตามสัญญากู้ฉบับที่โจทก์อ้าง โจทก์กับพวกสมคบกันปลอมขึ้น โดยลงจำนวนเงินผิดไปจากที่กู้กันจริง โจทก์จึงจะมาฟ้องเรียกไม่ได้ ขอให้ยกฟ้อง หรือถ้าจะให้จำเลยรับผิดก็เพียงในจำนวนเงิน ๕๐๐ บาท เท่าที่จำเลยได้เอาเงินไป
ศาลชั้นต้นเชื่อตามที่จำเลยนำสืบ พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าพยานโจทก์มีพิรุธฟังเป็นความจริงไม่ได้ ฝ่ายจำเลยนำสืบสมข้อต่อสู้ แต่อย่างไรก็ดี จำเลยยอมรับเข้ามาในคำให้การแก้คดีว่า จำเลยที่ ๑ ได้กู้ยืมเงินโจทก์ไปจริงเพียง ๕๐๐ บาท จำเลยที่ ๑ ควรชดใช้ให้โจทก์เท่าจำนวนที่จำเลยได้ยอมรับ ส่วนจำเลยที่ ๒ ย่อมต้องรับผิดในฐานผู้ค้ำประกันจำเลยที่ ๑ ด้วย พิพากษาแก้ให้จำเลยที่ ๑ ใช้เงิน ๕๐๐ บาทกับดอกเบี้ย ถ้าจำเลยที่ ๑ ไม่ใช้หรือใช้ไม่ครบ ให้จำเลยที่ ๒ ซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันชดใช้แทน
โจทก์ฎีกาของให้ยกฟ้องว่าหนี้ ๕๐๐ บาท ยืมเพื่อเล่นการพนันเป็นโมฆะ
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า พยานโจทก์เบิกความขัดแตกต่างกันส่อข้อพิรุธ จึงยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยได้กู้เงินโจทก์ไปตามจำนวนเงินที่ฟ้องแต่จำเลยให้การยอมรับว่าได้กู้ไปจริงเพียงจำนวนเงินห้าร้อยบาทซึ่งโจทก์ฟ้องจำนวนเงินกู้ถึง ๙,๕๐๐ บาทแต่ก็สืบไม่สม จึงไม่มีทางรับฟังคงรับฟังเป็นความจริงได้เท่าที่จำเลยรับ
ส่วนฎีกาของจำเลยที่กล่าวอ้างปัดความรับผิดโดยเบิกความว่าเป็นการกู้ยืมในการเล่นโปนั้น จำเลยมิได้ยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ไว้ในคำให้การแต่อย่างใด เพิ่งจะมาปรากฎในคำเบิกความอันเป็นการนำสืบนอกเหนือไปจากคำให้การ จึงรับฟังไม่ได้ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามาชอบแล้ว
พิพากษายืน

Share