คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 742/2545

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

สิทธิของผู้ที่เป็นกรรมการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประจำเขตต้องเป็นไปตามข้อกำหนดคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการแต่งตั้งและวิธีปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ข้อ 15/1 มิใช่เป็นไปตามระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาฯเพราะเป็นการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แม้ข้อกำหนดคณะกรรมการการเลือกตั้งฯ ระบุให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้มีหน้าที่ในการเลือกตั้งหรือเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งมีสิทธิลงคะแนนในหน่วยเลือกตั้งที่ตนต้องประจำปฏิบัติหน้าที่นั้นโดยไม่ต้องมีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง และต้องแสดงหลักฐานคำสั่งแต่งตั้งต่อคณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งก่อนทำการลงคะแนน โดยให้คณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งเพิ่มชื่อในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งอีกส่วนหนึ่งต่างหากได้ แต่เมื่อผู้ร้องเป็นกรรมการการเลือกตั้งประจำเขตซึ่งมีหน้าที่ตรวจเยี่ยมหน่วยเลือกตั้งในเขตโดยไม่มีหน้าที่ต้องประจำปฏิบัติในหน่วยเลือกตั้งหน่วยใดหน่วยหนึ่ง ผู้ร้องจึงไม่อาจใช้ความเป็นกรรมการเลือกตั้งไปลงคะแนนในหน่วยเลือกตั้งที่ผู้ร้องไม่มีบัญชีรายชื่อได้ การที่ผู้ร้องไปลงคะแนนในหน่วยเลือกตั้งที่ผู้ร้องไม่มีบัญชีรายชื่อทั้งมิได้มีการเพิ่มชื่อผู้ร้องในบัญชีรายชื่อดังกล่าวแต่อย่างใด จึงเป็นการไม่ชอบและเมื่อคณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศรายชื่อผู้ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ผู้ร้องก็มิได้แจ้งเหตุถึงการไปใช้สิทธิในหน่วยเลือกตั้งที่ไม่มีบัญชีรายชื่อดังกล่าวต่อบุคคลซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้งแต่งตั้งไว้ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาฯ มาตรา 22 ผู้ร้องจึงเป็นผู้เสียสิทธิในการสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภาตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฯ มาตรา 68 วรรคสอง และมาตรา 23 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาฯ ฉะนั้นการที่ผู้คัดค้านไม่รับสมัครผู้ร้องและไม่ประกาศชื่อผู้ร้องเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งจึงชอบแล้ว
คดีร้องขอให้รับสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภาไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมศาลตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาฯมาตรา 34

ย่อยาว

ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องเป็นผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตามกฎหมาย และได้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาในเขตจังหวัดสมุทรปราการ แต่ต่อมาผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งจังหวัดสมุทรปราการแจ้งผู้ร้องว่าผู้ร้องไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เพราะผู้ร้องไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2544 ซึ่งผู้ร้องได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งในหน่วยเลือกตั้งที่ 13 แล้ว ขอให้ศาลฎีกามีคำสั่งให้ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตรับสมัครผู้ร้องและประกาศให้ผู้ร้องเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง
ผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้านว่า ผู้ร้องมีชื่ออยู่ในบัญชีผู้มีสิทธิเลือกตั้งหน่วยเลือกตั้งที่ 25 ผู้ร้องมิได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งในหน่วยเลือกตั้งดังกล่าวทั้งมิได้แจ้งเหตุการไม่ไปใช้สิทธิ ผู้ร้องไม่มีสิทธิไปใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งในหน่วยเลือกตั้งที่ 13 ทั้งในบัญชีผู้มีสิทธิเลือกตั้งของหน่วยเลือกตั้งที่ 13ไม่ปรากฏรายการในการใช้สิทธิของผู้ร้องแต่อย่างใด หากมีชื่อผู้ร้องใช้สิทธิลงคะแนนในหน่วยเลือกตั้งที่ 13 ก็เป็นการไม่ชอบ เมื่อผู้ร้องเป็นผู้ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ทั้งเป็นผู้เสียสิทธิตามกฎหมายจึงขาดคุณสมบัติเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา ขอให้ยกคำร้อง
ในวันนัดพิจารณาผู้ร้องและผู้คัดค้านแถลงรับข้อเท็จจริงว่าในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2544 ผู้ร้องมีชื่ออยู่ในบัญชีผู้มีสิทธิเลือกตั้งหน่วยเลือกตั้งที่ 25 ในวันดังกล่าวผู้ร้องมิได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งในหน่วยเลือกตั้งที่ 25 เนื่องจากผู้ร้องเป็นกรรมการการเลือกตั้งประจำเขต 2 จังหวัดสมุทรปราการ มีหน้าที่ตรวจเยี่ยมหน่วยเลือกตั้งต่าง ๆ ในเขตรับผิดชอบซึ่งมีทั้งหมด 172 หน่วย และผู้ร้องได้รับมอบหมายให้ไปตรวจเยี่ยมทั้งหมด 51 หน่วย ผู้ร้องไม่มีหน้าที่ต้องปฏิบัติประจำอยู่หน่วยเลือกตั้งใดโดยเฉพาะ ในบัญชีผู้มีสิทธิเลือกตั้งของหน่วยเลือกตั้งที่ 13 ไม่มีการเพิ่มชื่อผู้ร้องและไม่ปรากฏรายการว่าผู้ร้องไปใช้สิทธิเลือกตั้งในหน่วยเลือกตั้งที่ 13 และผู้คัดค้านแถลงว่ามีระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาพ.ศ. 2542 กำหนดให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งซึ่งได้รับแต่งตั้งให้มีหน้าที่ในการเลือกตั้งลงคะแนนในหน่วยเลือกตั้งที่ตนต้องประจำปฏิบัติหน้าที่นั้นโดยไม่ต้องมีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้ตามเอกสารหมาย ค.1
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “มีปัญหาต้องวินิจฉัยว่า การที่ผู้คัดค้านไม่รับสมัครผู้ร้องและไม่ประกาศชื่อผู้ร้องเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาชอบหรือไม่ ผู้ร้องอ้างว่าผู้ร้องเป็นกรรมการการเลือกตั้งประจำเขต 2ผู้ร้องจึงมีสิทธิไปลงคะแนนเลือกตั้งในหน่วยที่ผู้ร้องไม่มีชื่อในบัญชีรายชื่อได้นั้น เห็นว่า สิทธิของผู้ที่เป็นกรรมการการเลือกตั้งดังกล่าวเป็นไปตามข้อกำหนดคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการแต่งตั้งและวิธีปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรข้อ 15/1 มิใช่เป็นไปตามระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2542 ตามที่ผู้คัดค้านอ้าง เพราะในการเลือกตั้งในวันดังกล่าวเป็นการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร มิใช่การเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา แต่ข้อกำหนดคณะกรรมการการเลือกตั้งฯ ข้อ 15/1 ดังกล่าว กำหนดไว้เช่นเดียวกับระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งฯ เอกสารหมาย ค.1 ข้อ 104 ทวิ โดยกำหนดว่า “ผู้มีสิทธิเลือกตั้งซึ่งมีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งของหน่วยใดให้ลงคะแนนเลือกตั้งได้เฉพาะหน่วยเลือกตั้งนั้น…
ผู้มีสิทธิเลือกตั้งซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้มีหน้าที่ในการเลือกตั้งหรือเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งมีสิทธิลงคะแนนเลือกตั้งในหน่วยเลือกตั้งที่ตนต้องประจำปฏิบัติหน้าที่นั้น โดยไม่ต้องมีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง…
ให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งตามวรรคสอง ซึ่งประสงค์จะลงคะแนนเลือกตั้งในหน่วยเลือกตั้งที่ตนต้องปฏิบัติหน้าที่ แสดงหลักฐานคำสั่งแต่งตั้งต่อคณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งก่อนทำการลงคะแนนเลือกตั้ง…ให้คณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งเพิ่มชื่อในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งอีกส่วนหนึ่งต่างหาก” แต่ข้อเท็จจริงได้ความว่า ผู้ร้องเป็นกรรมการการเลือกตั้งประจำเขต 2 มีหน้าที่ตรวจเยี่ยมหน่วยเลือกตั้งในเขตโดยไม่มีหน้าที่ต้องประจำปฏิบัติในหน่วยเลือกตั้งหน่วยใดหน่วยหนึ่งผู้ร้องจึงไม่อาจใช้ความเป็นกรรมการการเลือกตั้งไปลงคะแนนในหน่วยการเลือกตั้งที่ผู้ร้องไม่มีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งตามความในวรรคสองดังกล่าวได้ ทั้งผู้ร้องรับว่าคณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งที่ 13 มิได้เพิ่มชื่อผู้ร้องในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งในหน่วยเลือกตั้งที่ 13 แต่อย่างใด แม้ผู้ร้องจะได้ไปลงคะแนนในหน่วยเลือกตั้งที่ 13 จริงก็เป็นการไม่ชอบ นอกจากนี้เมื่อคณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศรายชื่อผู้ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ผู้ร้องก็มิได้แจ้งเหตุที่ได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งในหน่วยที่ 13 แทนการไปใช้สิทธิเลือกตั้งในหน่วยเลือกตั้งที่ 25 ต่อบุคคลซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้งแต่งตั้งไว้ตามความในมาตรา 22แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2541 ผู้ร้องจึงเป็นผู้เสียสิทธิในการสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภาตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 68 วรรคสอง และมาตรา 23 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2541 การที่ผู้คัดค้านไม่รับสมัครผู้ร้อง และไม่ประกาศชื่อผู้ร้องเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งจึงชอบแล้ว
อนึ่ง คดีนี้ผู้ร้องไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมศาลตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2541 มาตรา 34 ต้องคืนค่าธรรมเนียมศาลทั้งหมดให้แก่ผู้ร้อง”
จึงมีคำสั่งให้ยกคำร้อง และให้คืนค่าธรรมเนียมศาลทั้งหมดแก่ผู้ร้อง

Share