คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 742/2484

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อลูกหนี้ตามคำพิพากษาตายแล้วจะต้องเรียกทายาทเข้ารับมฤดกภายใน 1 ปี จึงจะยึดทรัพย์มฤดกได้ฟ้องสามีคนเดียวจะยึดทรัพย์ของภริยาในเมื่อสามีภริยาตายจากกันแล้วไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ชะนะความจำเลยเมื่อ พ.ศ.๒๔๗๓ ได้ยึดทรัพย์อ้างว่าเป็นของจำเลยที่ ๑ เมื่อ พ.ศ.๒๔๘๓ ซึ่งเป็นเวลายังไม่ครบ ๑๐ ปีแต่จำเลยที่ ๑ ตายก่อนการยึดรายนี้ไป ๖-๗ ปีแล้ว ผู้ร้องซึ่งเป็นภริยาจำเลยได้ร้องขัดทรัพย์.
ศาลชั้นต้นเห็นว่าเมื่อจำเลยที่ ๑ ตายทรัพย์ย่อมเป็นมฤดกได้แก่ทายาทไม่ใช่ของจำเลยที่ ๑ แล้ว โจทก์จึงยึดไม่ได้ให้ถอนการยึด.
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า เจ้าหนี้ชอบที่จะร้องขอให้บังคับคดีได้ภ่ยใน ๑๐ ปี และหนี้รายนี้เกิดขึ้นขณะใช้กฎหมายลักษณะผัวเมียซึ่งผู้ร้องต้องรับผิดด้วย จึงให้ยกคำร้องขัดทรัพย์ แต่มีความเห็นแย้ง.
ผู้ร้องฎีกา ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์มิได้ร้องขอให้เรียกทายาทเข้ารับมฤดกความภายใน ๑ ปี ต้องห้ามตามประมวลแพ่ง ฯ มาตรา ๑๗๕๔ ถึงแม้เป็นการบังคับระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ ๑ ก็ดี เมื่อจำเลยตายแล้วทรัพย์ก็ตกทอดแก่ทายาท เมื่อจะเรียกจากทายาทก็ต้องเรียกภายใน ๑ ปี ส่วนที่ว่าผู้ร้องอาจต้องรับผิดเป็นส่วนในหนี้รายนี้ ศาลก็มิได้พิพากษาให้ผู้ร้องรับผิด โจทก์จึงไม่มีอำนาจยึดทรัพย์ผู้ร้อง จึงให้ถอนการยึดทรัพย์.

Share