คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 741/2506

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากห้องเช่าและให้จำเลยให้ค่าเสียหายอีกเดือนละ 500 บาทด้วย จำเลยให้การว่า เช่าห้องพิพาทเพื่ออยู่อาศัย ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า ๆ ค่าเสียหายของโจทก์อย่างสูงไม่เกินเดือนละ 50 บาท ในการพิจารณาคู่ความตกลงกันว่า จะพิพาทกันเฉพาะประเด็นที่ว่า ห้องพิพาทเป็นที่อยู่อาศัยอันจะได้รับความคุ้มครอง ๆ หรือไม่เท่านั้น ส่วนประเด็นข้ออื่นคู่ความตกลงกันสละเสียไม่ถือเป็นข้อพิพาทต่อไปคือ ถ้าศาลวินิจฉัยว่าห้องพิพาทเป็นเคหะโจทก์ยอมแพ้ ถ้าวินิจฉัยว่าไม่เป็ฯเคหะ จำเลยยอมแพ้ ดังนี้ เมื่อศาลฟังว่าห้องพิพาทไม่เป็นเคหะ จำเลยแพ้คดีตามคำห้า จำเลยก็ต้องใช้ค่าเสียหายเดือนละ 500 บาทด้วย จะอ้างว่าคู่ความตกลงสละประเด็นข้อค่าเสียหายแล้วศาลพิพากษาให้ชำระค่าเสียหายเป็นการวินิจฉัยนอกประเด็นและเกินคำขอ ดังนี้ หาได้ไม่.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเช่าบ้านเลขที่ ๑๐ ของโจทก์เป็นสถานที่ประกอบการค้า ค่าเช่าเดือนละ ๕๐ บาท การเช่ามิได้ทำเป็นหนังสือและไม่ได้กำหนดเวลาเช่า จำเลยผิดสัญญาค้างค่าเช่า ๖ เดือน ๓๐๐ บาทเป็นการค้างชำระเกินกว่า ๒ คราวติด ๆ กัน โจทก์บอกเลิกสัญญา จำเลยไม่ยอมออกขอให้ขับไล่จำเลยและบริวารออกจากห้องพิพาท ให้ใช้ค่าเช่าที่ค้าง ๓๐๐ บาท และให้ใช้ค่าเสียหายที่โจทก์อาจให้คนเช่าได้อีกเดือนละ ๕๐๐ บาทนับแต่วันฟ้อง
จำเลยให้การต่อสู้ว่า เช่าเพื่ออยู่อาศัยได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าๆ ค่าเช่าค้างเพราะโจทก์ไม่มาเก็บตามปกติ จำเลยได้ส่งไปให้ทางธนาณัติ จะถือว่าผิดนัดไม่ได้ ก่อนฟ้องโจทก์ไม่เคยทวงถาม จึงไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่ ค่าเสียหายอย่างสูงไม่เกินเดือนละ ๕๐ บาทเท่าค่าเช่า ส่วนประเด็นข้ออื่นคู่ความตกลงกันสละเสียไม่ถือเป็นข้อพิพาทต่อไป ต่อมาได้มีการตกลงเพิ่มเติมปรากฎตามรายงานพิจารณาว่า ตามที่คู่ความตกลงกันไว้ในรายงานพิจาณาฉบับก่อนว่าจะพิพาทกันต่อไปเฉพาะประเด็นที่ว่าห้องพิพาทเป็นที่อยู่อาศัยอันจะได้รับความคุ้มครอง ฯลฯ หรือไม่นั้น ศาลสอบเพิ่มเติม คู่ความรับกันว่าที่ตกลงกันเช่นนั้น หมายความว่า ถ้าศาลวินิจฉัยว่าห้องพิพาทเป็นเคหะได้รับความคุ้มครอง ฯลฯ โจทก์ยอมแพ้ ถ้าศาลวินิจฉัยว่าห้องพิพาทไม่เป็นเคหะจำเลยยอมแพ้
ศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยเช่าห้องพิพาทเพื่อทำการค้า ไม่เป็นเคหะอันจะได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฉะนั้น จำเลยต้องแพ้คดีตามที่ตกลงกัน พิพากษาขับไล่จำเลยและบริวาร ให้จำเลยชำระค่าเช่าที่ค้าง ๓๐๐ บาท และค่าเสียหายเดือนละ ๕๐๐ บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะออกไป
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เฉพาะให้ยก ข้อที่บังคับให้จำเลยชำระค่าเช่าที่ค้าง ๓๐๐ บาท
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็ฯว่า แม้ในรายงานฉบับแรกจะมีข้อตกลงกันว่า “ส่วนประเด็นข้ออื่นคู่ความตกลงกันสละเสีย ไม่ถือเป็นข้อพิพาทต่อไป” อันชวนให้เข้าใจว่าคู่ความไม่ติดใจว่ากล่าวกันในประเด็นอื่นก็ดี แต่ในรายงานฉบับหลัง คู่ความได้ขยายข้อตกลงเพิ่มเติมว่า ถ้าศาลฟังว่าห้องพิพาทเป็นเคหะ โจทก์ยอมแพ้ ถ้าฟังว่าไม่ใช่ จำเลยยอมแพ้ จึงเห็นว่าคู่ความตกลงให้เป็นการยอมกันตลอดทั้งคดี คือยอมกันในประเด็นข้ออื่นด้วย มิใช่สละประเด็นข้อค่าเสียหายดังจำเลยฎีกา เมื่อห้องพิพาทไม่เป็นเคหะ จำเลยแพ้คดีตามคำท้า ก็ต้องใช้ค่าเสียหายเดือนละ ๕๐๐ บาทด้วย ศาลอุทธรณ์มิได้วินิจฉัยนอกประเด็นและเกินคำขอ
พิพากษายืน.

Share