คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1788/2513

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ตายเป็นพี่ชายจำเลยและอยู่บ้านเดียวกับจำเลย จำเลยเมาสุราและต่อยเตะบุตรสาวจำเลย ผู้ตายเข้าห้ามโดยกระชาก ตัวจำเลยออกมาจำเลยจะกระทืบบุตรสาวอีก ผู้ตายเอาขาขัดจำเลยล้มลง จำเลยจึงใช้มีดเฉพาะตัวมีดยาว 1 คืบแทงผู้ตายถูกที่ชายโครงซ้าย ต่อมาไม่นานผู้ตายถึงแก่ความตาย เพราะเลือดตกภายในจากการฉีกขาดของม้าม กระเพาะอาหารและเส้นเลือดใหญ่ในช่องท้อง พฤติการณ์ดังนี้แสดงว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้ตาย และการกระทำของจำเลยไม่เป็นการกระทำขณะบันดาลโทสะโดยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 72

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าผู้อื่น ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๘๘ และริบมีดของกลางที่จำเลยใช้กระทำผิด
จำเลยให้การปฏิเสธอ้างว่าผู้ตายถูกมีดเพราะอุบัติเหตุ
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๘๘ จำคุก ๑๕ ปี จำเลยรับสารภาพในชั้นสอบสวนลดโทษให้๑ ใน ๓ คงจำคุก ๑๐ ปี ริบมีดของกลาง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกาว่าไม่มีเจตนาฆ่า และกระทำไปโดยบันดาลโทสะ
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยตกอยู่ในอาการเมาสุรา การที่จำเลยลงโทษแก่นางสาวแดงบุตรสาวจำเลยโดยเตะต่อยและกระทืบเป็นการกระทำที่รุนแรงเกินไปด้วยขาดสติสัมปชัญญะผู้ตายซึ่งเป็นลุงของนางสาวแดงสุดที่จะอดกลั้นได้ จึงห้ามปรามขัดขวาง แต่จำเลยก็หาได้รู้สำนึกไม่ กลับเอามีดซึ่งยาวทั้งด้ามและตัวมีด ๑ คืบเศษมาแทงผู้ตายถูกที่สำคัญและอวัยวะภายในอันเป็นการกระทำที่ส่อเจตนาของจำเลยจำเลยจะอ้างเหตุบันดาลโทสะที่เกิดขึ้นเพราะบุตรสาวและผู้ตายเป็นต้นเหตุและว่าจำเลยกระทำแก่ผู้ตายโดยจิตไร้สำนึกไม่มีเจตนาขึ้นเป็นข้อลบล้างความผิดของจำเลยหาได้ไม่ จำเลยจึงมีความผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา
พิพากษายืน

Share