แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยทั้งสองเข้าไปที่ลานนวดข้าวของผู้เสียหาย พอผู้เสียหายกำลังเอาข้าวเปลือกให้เป็ดกิน จำเลยทั้งสองก็กระโจนเข้าไปใช้เหล็กแหลมแทงผู้เสียหายถูกที่บริเวณศีรษะ ที่สะบัก ที่หลัง และที่แขน มีบาดแผล 14 แผล แผลมีลักษณะเป็นสามแฉกเป็นส่วนมาก แพทย์ลงความเห็นว่ารักษาประมาณ 14 วัน จึงเป็นบาดแผลเพียงบาดเจ็บ ไม่ถึงกับเป็นอันตรายสาหัส และไม่ถูกอวัยวะสำคัญอาวุธที่ใช้ทำร้ายเป็นเพียงเหล็กแหลม ไม่ปรากฏชัดว่าเป็นชนิด ขนาด ประเภทใด ดังนี้ ยังฟังไม่ได้จำเลยทำร้ายผู้เสียหายโดยมีเจตนาฆ่า จึงมีความผิดฐานทำร้ายร่างกายบาดเจ็บ
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ ๒๒ มกราคม ๒๕๑๒ เวลากลางวัน จำเลยทั้งสองได้ไตร่ตรองไว้ก่อน บังอาจร่วมกันใช้เหล็กแหลมเป็นอาวุธแทงทำร้ายนายสิงห์ ทองคำ โดยเจตนาฆ่าให้ตาย แต่บาดแผลที่นายสิงห์ได้รับไม่ถูกอวัยวะสำคัญ จึงไม่ตาย เป็นการที่จำเลยกระทำไปตลอดแล้ว แต่ไม่บรรลุผล เหตุเกิดที่ตำบลเมืองน้อย อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๙ (๔) , ๘๐, ๘๓
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ฟังว่า จำเลยทั้งสองทำร้ายร่างกายนายสิงห์โดยไม่มีเจตนาฆ่า พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙๕, ๘๓ ไม่สมควรลดมาตราส่วนโทษให้ วางโทษจำคุกจำเลยที่ ๑ สองปี ลดมาตราส่วนโทษให้จำเลยที่ ๒ หนึ่งในสามตามมาตรา ๗๖ จำคุกจำเลยที่ ๒ หนึ่งปีสี่เดือน
โจทก์ฎีกา ขอให้ลงโทษฐานพยายามฆ่าตามฟ้อง
ศาลฎีกาวินิจฉัยฟังข้อเท็จจริงว่า ตามเวลาที่โจทก์กล่าวหา ผู้เสียหายกวาดข้าวอยู่ในลานนวดข้าว ส่วนนางจันทีภรรยาเลี้ยงลูกอยู่บนเรือนใกล้ลานนวดข้าว จำเลยทั้งสองมาที่ลานนวดข้าว ผู้เสียหายถามว่ามาทำอะไร จำเลยตอบว่ามาซื้อเป็ด แล้วจำเลยที่ ๒ ขึ้นไปดื่มน้ำบนเรือน ส่วนจำเลยที่ ๑ ยืนอยู่ใกล้ผู้เสียหายข้างบันไดเรือน พอผู้เสียหายเดินไปเอาข้าวเปลือกให้เป็ดกิน จำเลยที่ ๑ ก็ตามไป จำเลยที่ ๒ ลงจากเรือนตามไปด้วย ขณะที่ผู้เสียหายกำลังเอาข้าวเปลือกให้เป็ดอยู่ จำเลยคนหนึ่งพูดว่า “หยุดลุงอย่าไป” พอผู้เสียหายเงยขึ้น จำเลยทั้งสองก็กระโจนเข้าไปใช้เหล็กแหลมแทงผู้เสียหายมีบาดแผล ๑๔ แผล แล้วพากันวิ่งหนีไป ปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยในชั้นนี้มีเพียงว่า ที่จำเลยทำร้ายผู้เสียหายดังกล่าวนี้โดยจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหายดังโจทก์ฎีกามาหรือไม่ ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วเห็นว่า บาดแผลที่ผู้เสียหายได้รับ ปรากฏตามใบชันสูตรของแพทย์มี ๑๔ แผล เป็นบาดแผลถูกแทงที่บริเวณศีรษะ ที่สะบัก ที่หลัง และที่แขนซ้าย มีลักษณะเป็นสามแฉกเป็นส่วนมาก แพทย์ลงความเห็นว่า รักษาหายประมาณ ๑๔ วัน จึงเป็นบาดแผลเพียงบาดเจ็บ ยังไม่ถึงกับเป็นอันตรายสาหัส และไม่ถูกอวัยวะสำคัญของร่างกาย ส่วนอาวุธที่ใช้ทำร้ายก็ได้ความแต่เพียงว่าเป็นเหล็กแหลม แต่จะเป็นชนิด ขนาด ประเภทใดไม่ปรากฏชัด และคดีนี้ก็ไม่ได้อาวุธที่จำเลยใช้ทำร้ายมาเป็นของกลาง จึงฟังไม่ได้ว่าจำเลยทำร้ายผู้เสียหายโดยมีเจตนาฆ่า ฎีกาที่ ๙๐๒/๒๕๐๐ ที่โจทก์อ้างมาประกอบ รูปคดีหาตรงกับคดีนี้ไม่
พิพากษายืน ยกฎีกาโจทก์