คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 404/2513

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ข้อสำคัญในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 859/2511 คือ นายเทพหรือสุเทพได้ใช้ปืนยิงจำเลยกับพวกจริงหรือไม่ ฉะนั้น ข้อความอันเป็นเท็จที่จำเลยเบิกความว่าจำเลยได้ยินเสียงปืนดัง 10 นัด เข้าใจว่าเป็นเสียงปืนที่ยิงพวกจำเลย เพื่อแสดงว่าจำเลยไม่เห็นใครยิงปืนขึ้น10 นัด ทั้ง ๆ ที่ความจริงจำเลยเห็นนายเทพหรือสุเทพเป็นคนใช้ปืนกระหน่ำยิงมาทางจำเลยเป็นเหตุให้ศาลพิพากษายกฟ้อง ปล่อยนายเทพหรือสุเทพไป จึงเป็นข้อสารสำคัญในคดี จำเลยต้องมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยสาบานตัวแล้วเข้าเบิกความเป็นพยานศาลโดยเอาความที่รู้อยู่แล้วว่าเป็นความเท็จมาเบิกความในข้อสำคัญในคดีว่า”วันเกิดเหตุได้ยินเสียงปืนดังขึ้นประมาณ ๑๐ นัดเข้าใจว่าเป็นเสียงปืนที่ยิงพวกข้าพเจ้า” ซึ่งความจริงวันเกิดเหตุจำเลยเห็นนายเทพ จำปาทิพย์จำเลยในคดีแดงที่ ๘๕๙/๒๕๑๑ ของศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ชักปืนสั้นกระหน่ำยิงมาทางพวกจำเลยประมาณ ๑๐ นัดเศษ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๗๗
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๗๗ จำคุก ๑ ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกาทั้งข้อกฎหมายและข้อเท็จจริง ศาลชั้นต้นรับฎีกาเฉพาะข้อกฎหมายที่ว่า คำเบิกความของจำเลยไม่ใช่ข้อสำคัญในคดี
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงตามศาลอุทธรณ์ว่า จำเลยเห็นนายเทพหรือสุเทพเป็นคนใช้ปืนกระหน่ำยิงมาทางจำเลย และเห็นว่า ข้อสำคัญในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ ๘๕๙/๒๕๑๑ คือนายเทพหรือสุเทพได้ใช้ปืนยิงจำเลยกับพวกจริงหรือไม่ ฉะนั้น ข้อความอันเป็นเท็จที่จำเลยเบิกความว่าจำเลยได้ยินเสียงปืนดัง ๑๐ นัดเข้าใจว่าเป็นเสียงปืนที่ยิงพวกจำเลย เพื่อแสดงว่าจำเลยไม่เห็นใครยิงปืนขึ้น ๑๐ นัด เป็นเหตุให้ศาลพิพากษายกฟ้องปล่อยนายเทพหรือสุเทพ จำปาทิพย์ ไป จึงเป็นข้อสำคัญในคดี จำเลยต้องมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๗๗
พิพากษายืน ยกฎีกาจำเลย

Share