แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้ร้องยื่นคำร้องคัดค้านต่อศาลในกรณีที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีคำสั่งให้ผู้ร้องชำระเงินที่ผู้ร้องเป็นลูกหนี้จำเลยผู้ล้มละลาย ฉะนั้น การที่ผู้ร้องและทนายตลอดจนพยานไม่มาศาลตามวันเวลาที่นัดไต่สวน โดยมิได้ขอเลื่อนหรือแจ้งเหตุให้ศาลทราบ ถือได้ว่าเป็นการขาดนัด และในกรณีเช่นนี้ เมื่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่ติดใจดำเนินคดีต่อไป ศาลก็ต้องสั่งจำหน่ายคดีเสียจากสารบบความ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 201 ผู้ร้องมีทางดำเนินคดีต่อไปได้เพียงประการเดียว คือการร้องเริ่มต้นคดีใหม่ ซึ่งจะต้องอยู่ในบังคับแพ่งอายุความหรือระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้ ดังนั้น การที่ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ไต่สวนใหม่เกินกำหนดเวลา 14 วันนับจากที่ผู้ร้องทราบคำสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ให้ชำระหนี้ จึงเป็นการไม่ชอบด้วยพระราชบัญญัติล้มละลาย
ในกรณีที่ผู้ร้องขาดนัดพิจารณา และศาลสั่งให้จำหน่ายคดีของผู้ร้องไปนั้น ถือได้ว่าเป็นการละทิ้งคดี จึงไม่เป็ฯเหตุให้กำหนดระยะเวลาที่ผู้ร้องจะยื่นคำร้องคัดค้านคำสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สะดุดหยุดลง
ย่อยาว
ในการรวบรวมทรัพย์สินของจำเลยทั้งสามซึ่ง เป็นลูกหนี้ผู้ล้มละลายตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. ๒๔๘๓ แห่งคดีนี้ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เชื่อว่าผู้ร้องเป็นลูกหนี้ค่าซื้อสินค้าเชื่อจากจำเลยเป็นเงิน ๑๔,๕๐๑ บาท จึงสั่งให้ผู้ร้องชำระเงินจำนวนดังกล่าวและดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันที่ ๒๙ สิงหาคม ๒๕๐๖ เป็นต้นไปต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ภายใน ๑๔ วัน ผู้ร้องทราบคำสั่งดังกล่าวเมื่อวันที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๑๐ แต่ผู้ร้องปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง จึงได้ยื่นคำร้องคัดค้านต่อศาลเมื่อวันที่ ๖ มีนาคม ๒๕๑๐ ขอให้ศาลไต่สวนสั่งงดชำระเงิน ๑๔,๕๐๑ บาทและดอกเบี้ยให้แก่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
ศาลชั้นต้นนัดไต่สวน ครั้งแรกนัดสืบพยานผู้ร้องวันที่ ๒๑ เมษายน ๒๕๑๐ ถึงวันนัดทนายผู้ร้องขอเลื่อนเพราะป่วย ศาลอนุญาตให้เลื่อนไปวันที่ ๑๕ มิถุนายน ๒๕๑๐ เวลา ๘.๓๐ นาฬิกา โดยเสมียนทนายเป็นผู้รับทราบวันเวลานัด ครั้นถึงวันเวลานัด ผู้ร้องและทนายตลอดจนพยานไม่มาศาล เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ขอให้ศาลจำหน่ายคดีผู้ร้อง ศาลสั่งว่า ผู้ร้องขาดนัดให้จำหน่ายคดี ส่วนคำร้องขอให้ชี้ขาดเบื้องต้นของผู้ร้องนั้น ศาลสั่งว่าไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยเพราะสั่งจำหน่ายคดีแล้ว ในวันเดียวกันนั้น ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้นัดไต่สวนให้ผู้ร้องดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป โดยอ้างว่าเสมียนทนายจดเวลานัดของศาลผิดไป รุ่งขึ้นวันที่ ๑๖ มิถุนายน ๒๕๑๐ ศาลชั้นต้นสั่งคำร้องของผู้ร้องว่า การสั่งจำหน่ายคดีของผู้ร้องเป็นการสั่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๐๑ จะขอให้พิจารณาใหม่ไม่ได้ ให้ยกคำร้อง ต่อมาวันที่ ๒๐ มิถุนายน ๒๕๑๐ ผู้ร้องยื่นคำร้องมีข้ออ้างและคำขอเช่นเดียวกับคำร้องลงวันที่ ๖ มีนาคม ๒๕๑๐ อีกฉบับหนึ่ง ศาลชั้นต้นสั่งคำร้องนั้นในวันรุ่งขึ้นว่า ผู้ร้องทราบคำสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ให้ชำระเงิน ๑๔,๕๐๑ บาทเมื่อวันที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๑๐ ซึ่งนับถึงวันยื่นคำร้องฉบับหลังเกิน ๑๔ วัน ไม่ชอบด้วยพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. ๒๔๘๓ มาตรา ๑๑๙ จึงไม่รับคำร้องฉบับหลังของผู้ร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้ยกคำร้อง และที่ไม่รับคำร้องของผู้ร้อง คือคำสั่งลงวันที่ ๑๖ และ ๒๑ มิถุนายน ๒๕๑๐
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา
สำหรับฎีกาคำสั่งลงวันที่ ๑๖ มิถุนายน ๒๕๑๐ ซึ่งสั่งให้ยกคำร้องของผู้ร้องที่ขอให้พิจารณาใหม่นั้น ศาลฎีกาเห็นว่า ที่ผู้ร้องไม่มาศาลในวันที่ ๑๕ มิถุนายน ๒๕๑๐ เวลา ๘.๓๐ นาฬิกา ตามที่ศาลนัด โดยมิได้ขอเลื่อนหรือแจ้งเหตุที่ไม่มาศาลให้ศาลทราบนั้น ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. ๒๔๘๓ มาตรา ๑๕๓ บัญญัติให้นำบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้บังคับโดยอนุโลม ในกรณีเช่นนี้ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๙๗ วรรค ๒ ให้ถือว่าขาดนัด และคดีนี้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่ติดใจดำเนินคดีต่อไป ศาลจึงต้องจำหน่ายคดีเสียจากสารบบความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๐๑ ซึ่งห้ามมิให้อุทธรณ์คำสั่งที่สั่งให้จำหน่ายคดีหรือขอให้พิจารณาคดีใหม่ กรณีไม่อาจดำเนินคดีต่อไปได้ จะทำได้เพียงประการเดียวเท่านั้น คือการร้องเริ่มต้นคดีใหม่ แต่ทั้งนี้ก็ต้องอยู่ในบังคับแห่งอายุความหรือระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้ เฉพาะคดีนี้ก็คือภายใน ๑๔ วันนับแต่วันทราบคำสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ กล่าวคือนับแต่วันที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๑๐ ฉะนั้น ที่ผู้ร้องร้องขอให้ไต่สวนใหม่เมื่อวันที่ ๒๐ มิถุนายน ๒๕๑๐ จึงเกิน ๑๔ วัน เป็นการไม่ชอบด้วยพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. ๒๔๘๓ มาตรา ๑๑๙ และกรณีที่ผู้ร้องขาดนัดพิจารณา ศาลสั่งจำหน่ายคดีของผู้ร้องไปนั้น ถือได้ว่าเป็นการละทิ้งคดี ไม่เป็นเหตุให้กำหนดระยะเวลาที่ผู้ร้องจะยื่นคำร้องคัดค้านคำสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สะดุดหยุดลง ไม่ทำให้ผู้ร้องมีสิทธิ์ยื่นคำร้องคัดค้านได้
พิพากษายืน.