คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 739/2504

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 เป็นความผิดที่เจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานนั้นเองโดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือโดยทุจริต ฉะนั้นการที่โจทก์ถูกตำรวจจับและควบคุมฐานเป็นเจ้ามือสลากกินรวบ จำเลยซึ่งเป็นตำรวจเช้าไปกระทำต่อโจทก์ในทางชู้สาว ไม่เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของจำเลย การกระทำของจำเลยจึงไม่มีมูลความผิดตามกฎหมายดังกล่าว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เดิมโจทก์ถูกตำรวจจับหาว่าเป็นเจ้ามือสลากกินรวบ ได้ถูกควบคุมอยู่ที่สถานีตำรวจ จำเลยมีหน้าที่เป็นนายสิบเวร บังอาจใช้อำนาจหน้าที่ปฏิบัติการโดยมิชอบ ขึ้นนั่งคร่องตัวโจทก์อันเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนต่อระเบียบแบบแผนและต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๕๗
ศาลจังหวัดนครนครราชสีมาไต่สวนมูลฟ้องแล้วเห็นว่า คดีโจทก์ไม่มีมูลทางอาญาพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๗ เป็นความผิดที่เจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานนั้นเอง โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือโดยทุจริต แต่ที่โจทก์ฟ้องและนำสืบว่าจำเลยเข้าไปคร่อมตัวโจทก์เลิกผ้าและจับนม เป็นการกระทำในทางรักใคร่ในทางชู้สาวหรือจะร่วมประเวณีกับโจทก์ ไม่เกี่ยวกับ+++ปฏิบัติหน้าที่ของจำเลยซึ่งเป็นเจ้าพนักงานตำรวจเลย การกระทำของจำเลจึงไม่มีมูลความผิดตามมาตรา ๑๕๗ ที่โจทก์ว่าความในมาตรานี้ เจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหมายความถึงการกระทำลง จะเป็นในหน้าที่หรือนอกหน้าที่ก็เป็นความผิด หาถูกต้องไม่ ศาลอุทธรณ์พิพากษามาชอบแล้ว ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน

Share