คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 738/2524

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ผู้ร้องเป็นพี่ร่วมบิดามารดาเดียวกับผู้ตาย ซึ่งเป็นทายาทลำดับสาม ส่วนบุตร 5 คน ของผู้ตายเป็นทายาทลำดับหนึ่ง จึงตัดผู้ร้องมิให้มีสิทธิรับมรดกของผู้ตาย เมื่อผู้ร้องไม่เป็นทายาทผู้มีสิทธิรับมรดก ทั้งมิได้เป็นผู้มีส่วนได้เสียที่จะร้องขอต่อศาลให้ตั้งเป็นผู้จัดการมรดก ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิร้องขอให้ศาลตั้งเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งยกคำร้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนผู้ร้องฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ได้ความตามทางไต่สวนว่า ผู้ร้อง นางทองเต็ม นายสติมเป็นบุตรของนายโต๊ะ นางมาลี หงษ์เทศนายสมพร แหวนประดับ เป็นสามีนางทองเต็มแต่มิได้จดทะเบียนสมรสกันมีบุตร 5 คน ยังไม่บรรลุนิติภาวะ นางทองเต็มตายเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2522 ก่อนตายเป็นเจ้าของที่ดินตาม น.ส.3 เลขที่ 163, 1816 ตำบลศรีภิรมย์ อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก ได้ขายให้แก่นายสำราญ ศรีหนาท ราคา 33,500 บาท แต่ยังมิได้โอนกัน นายสำราญขอให้จดทะเบียนโอน แต่ทำไม่ได้ เพราะไม่มีผู้จัดการมรดก

พิเคราะห์แล้ว คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยว่า ผู้ร้องมีสิทธิร้องขอให้ศาลตั้งเป็นผู้จัดการมรดกหรือไม่ ปรากฏว่าผู้ร้องเป็นพี่ร่วมบิดามารดาเดียวกันกับนางทองเต็มผู้ตาย ซึ่งเป็นทายาทลำดับสาม ส่วนบุตร 5 คนของผู้ตายเป็นทายาทลำดับหนึ่ง จึงตัดผู้ร้องมิให้มีสิทธิรับมรดกของผู้ตาย เมื่อผู้ร้องไม่เป็นทายาทผู้มีสิทธิได้รับมรดก ทั้งมิได้เป็นผู้มีส่วนได้เสียที่จะร้องขอต่อศาลให้ตั้งเป็นผู้จัดการมรดกเช่นนี้ ผู้ร้องไม่มีสิทธิร้องขอให้ศาลตั้งเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย”

พิพากษายืน

Share