คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7371/2537

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยศาลฎีกา

ย่อสั้น

เกี่ยวกับความรับผิดของผู้เช่าตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 562 นั้น หากความเสียหายแก่ทรัพย์สินที่เช่ามิใช่เกิดจากการใช้ทรัพย์สินโดยมิชอบ และมิใช่เป็นการกระทำของผู้เช่าหรือของบุคคลซึ่งอยู่กับผู้เช่า หรือของผู้เช่าช่วงผู้เช่าก็ไม่ต้องรับผิดต่อผู้ให้เช่า ส่วนข้อตกลงรับผิดนอกเหนือจากนี้ที่มีระหว่างผู้เช่ากับผู้ให้เช่าเป็นเรื่องที่บังคับได้ระหว่างคู่กรณีเท่านั้น ข้อตกลงดังกล่าวหาก่อให้เกิดสิทธิแก่ผู้เช่าในอันที่จะฟ้องเรียกค่าเสียหายแก่ทรัพย์สินที่เช่าจากบุคคลภายนอกผู้ทำละเมิดไม่ บุคคลที่ต้องเสียหายและมีสิทธิได้รับการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจากการทำละเมิดต่อเรือตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 420 คือเจ้าของเรือ โจทก์ซึ่งเป็นเพียงผู้เช่าเรือดังกล่าวมาทำการรับขน จะฟ้องเรียกค่าเสียหายที่เกิดแก่เรืออันมิใช่ความเสียหายที่เกิดจากการรับขนได้ก็แต่โดยอาศัยการรับช่วงสิทธิตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 226,227

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสี่ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายซึ่งเกิดแก่เรือที่โจทก์เช่าแก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ย
จำเลยทั้งสี่ให้การต่อสู้คดี ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ตามที่คู่ความนำสืบรับกันว่า จำเลยที่ 1 และที่ 2 ทำสัญญาขายมันสำปะหลังอัดเม็ดให้บริษัท โครห์น อิมปอร์ต เอ็กปอร์ต จำกัด ประเทศเยอรมันนี โจทก์ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของผู้ซื้อได้เช่าเรือ เซ้าท์ฟอร์จูน จากบริษัท ซังโกสตีมชิป จำกัด ประเทศ ญี่ปุ่น เพื่อทำการส่งสินค้าให้ผู้ซื้อ และโจทก์ขออนุญาตจากเจ้าของเรือเพื่อทำการรมควันสินค้าในเรือ เจ้าของเรืออนุญาตโดยให้โจทก์เป็นผู้รับผิดชอบในความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น ต่อมาเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2527 หลังจากนำสินค้าลงเรือแล้ว จำเลยที่ 3 ทำการรมควันสินค้าในระวางเรือที่ 2 และที่ 4 โดยใช้สาร ฟอสฟิน เริ่มลงมือทำงานประมาณ 10 นาฬิกา เสร็จเมื่อเวลาประมาณ 11 นาฬิกา แล้วขอให้ลูกเรือปิดฝาระวางเรือ ครั้นเวลาประมาณ 13 นาฬิกา ของวันนั้นเองได้เกิดการระเบิดอย่างรุนแรงที่ระวางเรือที่ 2 ทำให้เรือได้รับความเสียหาย โจทก์ถูกเจ้าของเรือเรียกร้องให้ชดใช้ค่าเสียหาย แต่โจทก์ยังไม่ได้ชำระค่าเสียหายให้แก่เจ้าของเรือ
ปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ในข้อแรกมีว่า โจทก์มีอำนาจฟ้องหรือไม่ โจทก์ฎีกาว่า โจทก์มีความรับผิดตามสัญญาเช่าและต้องรับผิดในความเสียหายที่เกิดจากการรมควันในเรือตามข้อตกลงเอกสารหมาย จ.5 ต่อเจ้าของเรือ โจทก์จึงมีสิทธิฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลยทั้งสี่ผู้ที่ทำละเมิดจนเกิดความเสียหายแก่เรือโดยไม่ต้องอาศัยสิทธิของเจ้าของเรือและไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหายแก่เจ้าของเรือแล้วรับช่วงสิทธิมาฟ้อง เห็นว่า ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา562 วรรคแรก บัญญัติว่า “ผู้เช่าจะต้องรับผิดในความเสียหายหรือบุบสลายอย่างใด ๆ อันเกิดขึ้นแก่ทรัพย์สินที่เช่า เพราะความผิดของผู้เช่าเองหรือของบุคลลซึ่งอยู่กับผู้เช่าหรือผู้เช่าช่วง” และวรรคสองบัญญัติว่า “แต่ผู้เช่าไม่ต้องรบผิดในความสูญหายหรือบุบสลายอันเกิดแต่การใช้ทรัพย์สินนั้นโดยชอบ” จะเห็นได้ว่าในเรื่องเช่านั้นหากความเสียหายแก่ทรัพย์สินที่เช่านั้นมิใช่เกิดจากการใช้ทรัยพ์สินโดยมิชอบ และมิใช่เป็นการกระทำของผู้เช่าหรือของบุคคลซึ่งอยู่กับผู้เช่าหรือผู้เช่าช่วง ผู้เช่าก็ไม่ต้องรับผิดต่อผู้ให้เช่าส่วนข้อตกลงรับผิดนอกเหนือจากนี้ที่มีระหว่างผู้เช่ากับผู้ให้เช่าเป็นเรื่องที่บังคับได้ระหว่างคู่กรณีเท่านั้น ข้อตกลงดังกล่าวหาก่อให้เกิดสิทธิแก่ผู้เช่าในอันที่จะฟ้องเรียกค่าเสียหายแก่ทรัพย์สินที่เช่าจากบุคคลภายนอกผู้กระทำละเมิดไม่ สำหรับคดีนี้โจทก์ฟัองเรียกค่าเสียหายที่เกิดแก่ตัวเรือ มิใช่ความเสียหายที่เกิดจากการรับขน บุคคลที่่ต้องเสียหายและมีสิทธิได้รับการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจากการทำละเมิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420 คือเจ้าของเรือ โจทก์ซึ่งเป็นเพียงผู้เช่าจะใช้สิทธินั้นได้ก็แต่โดยอาศัยการรับช่วงสิทธิตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 226และ 227 ที่โจทก์อ้างว่าจำเลยต้องฟ้องคดีนี้เสียก่อนเพื่อให้คดีขาดอายุความนั้น ก็ไม่มีกฎหมายสนับสนุนให้ทำได้
พิพากษายืน

Share