คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7370/2543

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ก่อนจับกุมจำเลยทั้งห้า เจ้าพนักงานตำรวจซุ่มดูเห็นจำเลยที่ 1เดินออกจากกระท่อมไปหยิบกระบอกไม้ไผ่ที่บริเวณข้างเปลที่จำเลยที่ 5นอนอยู่ แล้วนำไปซุกซ่อนในถังซีเมนต์ซึ่งอยู่ห่างจากกระท่อมประมาณ18 เมตร เมื่อตรวจค้นกระบอกไม้ไผ่พบเมทแอมเฟตามีนจำนวน 82 เม็ดบรรจุอยู่ และพบจำเลยที่ 2 หลบซ่อนนอนหมอบอยู่ในสวนห่างจากถังซีเมนต์ประมาณ 15 เมตร มีถุงย่ามวางอยู่ห่างจากจำเลยที่ 2 ประมาณ2 เมตร ภายในถุงย่ามมีเมทแอมเฟตามีนจำนวน 600 เม็ด เจ้าพนักงานตำรวจได้ตรวจค้นภายในกระท่อมพบจำเลยที่ 3 และที่ 4 โดยจำเลยที่ 3 นอนหลับอยู่ดังนี้ ตามพฤติการณ์แห่งคดีปรากฏว่าเจ้าพนักงานตำรวจตรวจค้นพบเมทแอมเฟตามีนของกลางนอกกระท่อมและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดคือจำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 5 ส่วนจำเลยที่ 3 และที่ 4 เป็นเพียงผู้มาอาศัยพักผ่อนภายในกระท่อมเท่านั้น พยานโจทก์มิได้เบิกความเลยว่าจำเลยที่ 3 และที่ 4 ได้กระทำการอย่างใดอันแสดงให้เห็นว่ารู้เห็นและร่วมกระทำความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายทั้งขณะเกิดเหตุจำเลยที่ 3 และที่ 4 ก็อยู่ภายในกระท่อม พยานหลักฐานโจทก์ที่นำสืบมาไม่มีน้ำหนักพอให้ฟังว่าจำเลยที่ 3 และที่ 4 ร่วมกระทำผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งห้าตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษพ.ศ. 2522 มาตรา 4, 7, 8, 15, 57, 66, 67, 91, 102 ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 33, 83, 91 ริบเมทแอมเฟตามีนของกลางที่เหลือจากการตรวจพิสูจน์และของกลางอื่นทั้งหมด

จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพ

จำเลยที่ 2 ถึงที่ 5 ให้การรับสารภาพว่าเสพเมทแอมเฟตามีนแต่ปฏิเสธว่ามิได้มีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งห้ามีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 15 วรรคหนึ่ง, 57, 66 วรรคหนึ่ง, 91(ที่ถูกประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83) เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน เรียงกระทงลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 สำหรับจำเลยที่ 1 ที่ 4 และที่ 5 ฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายจำคุกคนละ 21 ปี ฐานเสพเมทแอมเฟตามีน จำคุกคนละ 6 เดือน ส่วนจำเลยที่ 2และที่ 3 ขณะกระทำความผิดอายุยังไม่เกิน 17 ปี ลดมาตราส่วนโทษให้คนละกึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 75 ฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายจำคุกคนละ 10 ปี 6 เดือน ฐานเสพเมทแอมเฟตามีนจำคุกคนละ 3 เดือน จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78คงจำคุกจำเลยที่ 1 ฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย จำคุก 10 ปี 6 เดือน ฐานเสพเมทแอมเฟตามีน จำคุก 3 เดือน รวมจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 10 ปี 9 เดือน ส่วนจำเลยที่ 2 ถึงที่ 5 ให้การรับสารภาพในชั้นจับกุมในข้อหามีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษในข้อหานี้ให้คนละหนึ่งในสาม และให้การรับสารภาพในข้อหาเสพเมทแอมเฟตามีนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษในข้อหานี้ให้คนละกึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก จำเลยที่ 2 และที่ 3ฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายคนละ 7 ปี ฐานเสพเมทแอมเฟตามีน จำคุกคนละ 1 เดือน 15 วัน รวมจำคุกจำเลยที่ 2 และที่ 3ไว้คนละ 7 ปี 1 เดือน 15 วัน จำคุกจำเลยที่ 4 และที่ 5 ฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายคนละ 14 ปี ฐานเสพเมทแอมเฟตามีนจำคุกคนละ 3 เดือน รวมจำคุกจำเลยที่ 4 และที่ 5 ไว้คนละ 14 ปี 3 เดือนริบของกลาง

จำเลยที่ 4 อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องสำหรับจำเลยที่ 3และที่ 4 ในความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายส่วนข้อหาเสพเมทแอมเฟตามีนไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 3 และที่ 4 เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีคงมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์เพียงว่า จำเลยที่ 3 และที่ 4 ได้ร่วมกับจำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 5 กระทำความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายหรือไม่ ข้อเท็จจริงฟังได้ในเบื้องต้นว่าตามวันและเวลาเกิดเหตุในฟ้องเจ้าพนักงานตำรวจจับกุมจำเลยทั้งห้าได้พร้อมเมทแอมเฟตามีนของกลางจำนวน 682 เม็ด โดยขณะร้อยตำรวจโทประเสริฐ มูฮำหมัดฮาซัน และจ่าสิบตำรวจวีรยุทธ นาควรรณกิจพยานโจทก์ซุ่มดูอยู่เห็นจำเลยที่ 1 เดินออกจากกระท่อมไปหยิบกระบอกไม้ไผ่ที่บริเวณข้างเปลที่จำเลยที่ 5 นอนอยู่ข้างกระท่อมแล้วนำไปซุกซ่อนในถังซีเมนต์ซึ่งอยู่ห่างจากกระท่อมประมาณ 18 เมตร เมื่อเจ้าพนักงานตำรวจตรวจค้นกระบอกไม้ไผ่พบเมทแอมเฟตามีนจำนวน 82 เม็ดบรรจุอยู่ และพบจำเลยที่ 2 หลบซ่อนนอนหมอบอยู่ในสวนห่างจากถังซีเมนต์ประมาณ15 เมตร มีถุงย่ามวางอยู่ห่างจากจำเลยที่ 2 ประมาณ 2 เมตร ภายในถุงย่ามมีเมทแอมเฟตามีนจำนวน 600 เม็ด เจ้าพนักงานตำรวจได้ตรวจค้นภายในกระท่อมพบจำเลยที่ 3 และที่ 4 โดยจำเลยที่ 3 นอนหลับอยู่ เห็นว่าตามพฤติการณ์แห่งคดีปรากฏว่าเจ้าพนักงานตำรวจตรวจค้นพบเมทแอมเฟตามีนของกลางนอกกระท่อมและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดดังกล่าวคือจำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 5 ส่วนจำเลยที่ 3 และที่ 4 เป็นเพียงผู้มาอาศัยพักผ่อนภายในกระท่อมเท่านั้น พยานโจทก์มิได้เบิกความเลยว่าเห็นจำเลยที่ 3และที่ 4 ได้กระทำการอย่างใดอันแสดงให้เห็นว่าจำเลยที่ 3 และที่ 4รู้เห็นและร่วมกระทำความผิดกับจำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 5 ฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ทั้งขณะเกิดเหตุจำเลยที่ 3 และที่ 4 ก็อยู่ภายในกระท่อม พยานหลักฐานโจทก์ที่นำสืบมาไม่มีน้ำหนักพอให้ฟังว่าจำเลยที่ 3และที่ 4 ร่วมกระทำผิดกับจำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 5 ฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายกฟ้องจำเลยที่ 3 ที่ 4 ในข้อหานี้ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น”

พิพากษายืน

Share