คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 737/2530

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ฟ้องโจทก์บรรยายชัดแจ้งแล้วว่า โจทก์ได้รับเช็คพิพาทมาโดยมีผู้นำมาแลกเงินสดไปจากโจทก์ ซึ่งแสดงถึงมูลหนี้ที่มาแห่งการที่โจทก์ได้รับเช็คพิพาทแล้ว. ส่วนเรื่องผู้ใดเป็นผู้นำเช็คพิพาทมาแลกเงินสดจากโจทก์ ที่ไหนอย่างไร นั้น เป็นเพียงรายละเอียดซึ่งโจทก์อาจนำสืบได้ในชั้นพิจารณา ฟ้องโจทก์ได้แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาของโจทก์และคำขอบังคับทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาเช่นว่านั้นครบถ้วนแล้วไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุมแต่อย่างใด
โจทก์ขอให้จำเลยชำระดอกเบี้ยนับแต่วันที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คพิพาท ที่ศาลล่างพิพากษาให้จำเลยชำระดอกเบี้ยนับแต่วันที่เช็คพิพาทถึงกำหนดชำระเงินซึ่งเป็นคนละวันกับวันที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินนั้น นอกจากจะเกินคำขอแล้วยังเป็นการไม่ถูกต้องเนื่องจากจำเลยยังมิได้ตกเป็นผู้ผิดนัดจนกว่าธนาคารจะปฏิเสธการจ่ายเงิน ข้อนี้แม้จะมิได้ฎีกาขึ้นมา ศาลฎีกาก็ชอบที่จะแก้ไขเสียให้ถูกต้อง.(ที่มา-ส่งเสริม)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องเรียกเงินตามเช็คซึ่งจำเลยเป็นผู้สั่งจ่ายและส่งมอบชำระหนี้ให้แก่บุคคลอื่นแล้วบุคคลนั้นนำมาแลกเงินสดไปจากโจทก์แต่เมื่อถึงกำหนด โจทก์นำไปเรียกเก็บเงิน ปรากฎว่าธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน จึงขอให้จำเลยชำระเงินตามเช็คพร้อมทั้งดอกเบี้ย
จำเลยให้การต่อสู้ว่าฟ้องโจทก์เคลือบคลุม
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้โจทก์ชนะคดี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงฟังยุติว่า โจทก์เป็นผู้ครอบครองเช็คพิพาททั้งสองฉบับซึ่งเรียกเก็บเงินไม่ได้…ในปัญหาแรกเรื่องฟ้องโจทก์เคลือบคลุมหรือไม่นั้น จำเลยอ้างว่าโจทก์มิได้บรรยายฟ้องว่า โจทก์ได้รับเช็คพิพาทมาจากใครเพื่อชำระหนี้อะไรที่ไหนอย่างไร จึงเป็นฟ้องเคลือบคลุม เห็นว่า ฟ้องโจทก์บรรยายชัดแจ้งแล้วว่าโจทก์ได้รับเช็คพิพาทมาโดยมีผู้นำมาแลกเงินสดไปจากโจทก์ ซึ่งแสดงถึงมูลหนี้ที่มาแห่งการที่โจทก์ได้รับเช็คพิพาทแล้ว ส่วนเรื่องผู้ใดเป็นผู้นำเช็คพิพาทมาแลกเงินสดจากโจทก์ที่ไหนอย่างไร นั้น เป็นเพียงรายละเอียดซึ่งโจทก์อาจนำสืบได้ในชั้นพิจารณา ฟ้องโจทก์ได้แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาของโจทก์ และคำขอบังคับ ทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาเช่นว่านั้นครบถ้วนแล้ว ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุมแต่อย่างใด ฎีกาจำเลยข้อนี้ฟังไม่ขึ้น…
แต่คดีนี้ โจทก์ขอให้จำเลยชำระดอกเบี้ยนับตั้งแต่วันที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คพิพาท ดังนั้นที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาให้จำเลยชำระดอกเบี้ยนับตั้งแต่วันที่เช็คพิพาทแต่ละฉบับถึงกำหนดชำระเงิน ซึ่งเป็นวันที่แตกต่างกับวันที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินนั้น นอกจากจะเกินคำขอแล้ว ยังเป็นการไม่ถูกต้องเนื่องจากจำเลยยังมิได้ตกเป็นผู้ผิดนัดจนกว่าธนาคารจะปฏิเสธการจ่ายเงิน ข้อนี้แม้จะมิได้มีฎีกาขึ้นมา ศาลฎีกาก็ชอบที่จะแก้ไขเสียให้ถูกต้อง
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยชำระดอกเบี้ยนับตั้งแต่วันที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คพิพาทแต่ละฉบับ ทั้งนี้ เมื่อคำนวณถึงวันฟ้องแล้ว ต้องไม่เกินกว่า 9,716 บาท นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ โจทก์ไม่ได้แก้ฎีกาจึงไม่กำหนดค่าทนายความให้”.

Share