แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เอกสารที่ทนายจำเลยส่งศาลเพื่อประกอบการถามค้านตัวโจทก์ซึ่งอ้างตนเองเป็นพยานในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง โจทก์ได้ตรวจดูและเบิกความรับรองโดยทนายจำเลยได้ส่งต้นฉบับให้โจทก์ตรวจดูแล้ว จึงขอส่งสำเนาแทนต้นฉบับ โจทก์ก็มิได้คัดค้านว่าสำเนาเอกสารนี้มีข้อความไม่ตรงกับต้นฉบับ ถือว่าโจทก์ยอมรับความถูกต้องของเอกสารนี้แล้ว แม้จะเป็นเพียงสำเนา ศาลก็รับฟังประกอบถ้อยคำของโจทก์ได้ ไม่เป็นการต้องห้ามตามกฎหมาย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยบังอาจแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่ร้อยตำรวจโทสุธนพนักงานสอบสวนว่า จำเลยเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ตึกแถวเลขที่ ๑๖๕๙/๗ จำเลยตรวจพบว่าตึกแถวดังกล่าวโจทก์ได้ขนของและทรัพย์สินเข้าไปอยู่โดยไม่ได้รับอนุญาตอันเป็นเท็จ ความจริงแล้วจำเลยมิได้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ตึกแถวดังกล่าว หากแต่เป็นของนายประเสริฐ โจทก์มีสิทธิยึดถือและครอบครอง การกระทำของจำเลยเป็นการแจ้งความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญา ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ทั้งเป็นการใส่ความโจทก์ต่อบุคคลที่สาม ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๓๗, ๑๗๒, ๓๒๖
ศาลชั้นต้นตรวจฟ้องโจทก์แล้วเห็นว่า ข้อหาหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๒๖ คดีขาดอายุความ ให้ยก ส่วนข้อหาตามมาตรา ๑๓๗ และ ๑๗๒ ไต่สวนมูลฟ้องแล้ว พิพากษาให้ยกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เอกสารหมาย ล.๖ เป็นเอกสารที่ทนายจำเลยส่งศาลเพื่อประกอบการถามค้านตัวโจทก์ ซึ่งอ้างตนเองเป็นพยานว่านางมะได้ยกกรรมสิทธิ์ในตึกแถวพร้อมทั้งที่ดินให้แก่จำเลยแล้ว ซึ่งโจทก์ได้ตรวจดูและเบิกความรับรองโดยทนายจำเลยได้ส่งต้นฉบับให้โจทก์ตรวจดูแล้ว จึงขอส่งสำเนาแทนต้นฉบับโจทก์ก็มิได้คัดค้านว่าสำเนาเอกสารนี้มีข้อความไม่ตรงกับต้นฉบับแต่อย่างใด ถือว่าโจทก์ยอมรับความถูกต้องของเอกสารนี้แล้ว ดังนั้น แม้เอกสารหมาย ล.๖ จะเป็นเพียงสำเนา ศาลก็รับฟังประกอบถ้อยคำของโจทก์ได้ ไม่เป็นการต้องห้ามตามกฎหมาย
พิพากษายืน.