คำสั่งคำร้องที่ 335/2530

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

เมื่อคำฟ้องของโจทก์ระบุไว้ชัดแจ้งแล้วว่าผู้เสียหาย ได้ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนภายในอายุความตามกฎหมาย และพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลจักรวรรดิ์ได้สอบสวนแล้วฎีกาของจำเลยที่ว่าฟ้องโจทก์เคลือบคลุม เพราะไม่บรรยายว่า ผู้เสียหายร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนท้องที่ใด และร้องทุกข์ ตั้งแต่เมื่อใด ไม่อาจทราบได้ว่าร้องทุกข์ภายในอายุความ หรือไม่ แม้จะเป็นปัญหาข้อกฎหมายก็ตาม ก็เป็นฎีกาข้อกฎหมาย ที่ไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัยตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249ประกอบด้วย ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15

ย่อยาว

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิด อันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2497 มาตรา 3ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 จำคุก 1 ปี กระทงหนึ่ง จำคุก 10 เดือน อีกกระทงหนึ่ง รวมจำคุก 1 ปี 10 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 11 เดือน จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้น มีคำสั่งไม่รับฎีกา จำเลยฎีกาคำสั่งไม่รับฎีกา จำเลยฎีกาคำสั่งไม่รับฎีกา

ศาลฎีกาสั่งว่า “พิเคราะห์แล้ว จำเลยฎีกาข้อแรกว่าฟ้องโจทก์เคลือบคลุมเพราะไม่บรรยายว่าผู้เสียหายร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนท้องที่ใด และร้องทุกข์ตั้งแต่เมื่อใดไม่อาจทราบได้ว่าร้องทุกข์ภายในอายุความหรือไม่ และฎีกาข้อสองว่าการกระทำของจำเลยตามฟ้องเป็นความผิดกรรมเดียวนั้นเป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมาย แต่ฎีกาของจำเลยข้อแรกนั้น เห็นว่าคำฟ้องระบุชัดแจ้งแล้วว่าผู้เสียหายได้ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนภายในอายุความตามกฎหมาย และพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลจักรวรรดิ์ ได้สอบสวนแล้ว จึงเป็นฎีกาข้อกฎหมายที่ไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 ศาลชั้นต้นไม่รับฎีกาของจำเลยในข้อนี้ชอบแล้ว จึงให้รับฎีกาของจำเลยเฉพาะข้อสองไว้”

Share