คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 737/2526

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในคำฟ้องของโจทก์ แม้โจทก์จะระบุชื่อโจทก์ทั้ง 4 คนแล้วตามด้วยคำว่าโดย ช. บิดาผู้ปกครองผู้แทนโดยชอบธรรมโดยมิได้บรรยายให้ชัดว่าโจทก์คนไหนฟ้องคดีเอง และคนไหนฟ้องโดยผู้แทนโดยชอบธรรมก็ตาม แต่ในคำฟ้องก็ยังปรากฏว่าโจทก์ได้ระบุอายุของโจทก์ที่ 1 ว่า 24 ปี โจทก์ที่ 2 อายุ 16 ปี ส่วนโจทก์ที่ 3 และโจทก์ที่ 4 นั้น แม้โจทก์จะมิได้ระบุอายุของโจทก์ที่ 3 ที่ 4 ไว้ แต่กลับระบุอายุของบิดาไว้แทนก็ตามแต่ก็ปรากฏในคำฟ้องว่า โจทก์ที่ 3 เป็นเด็กหญิง และโจทก์ที่ 4 เป็นเด็กชายดังนี้ย่อมพอเข้าใจได้แล้วว่าโจทก์ที่ 1 บรรลุนิติภาวะแล้วและฟ้องคดีด้วยตนเองส่วนโจทก์ที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 ยังเป็นผู้เยาว์บิดาผู้แทนโดยชอบธรรมฟ้องคดีแทน ฟ้องโจทก์จึงไม่เคลือบคลุม

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเช่าที่ดินของโจทก์แล้วไม่ชำระค่าเช่าบิดาโจทก์บอกกล่าวให้จำเลยออกไป จำเลยก็เพิกเฉย จึงขอให้ขับไล่จำเลยและใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์

จำเลยให้การต่อสู้หลายประการและว่าฟ้องโจทก์เคลือบคลุม

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาให้ขับไล่จำเลย

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า จำเลยอ้างว่าฟ้องของโจทก์เกี่ยวกับความสามารถของบุคคลเคลือบคลุมเนื่องจากโจทก์ระบุชื่อโจทก์ทั้งสี่คนแล้วตามด้วยคำว่าโดยนายซ้วน ธนเกียรติวงศ์ บิดาผู้ปกครองผู้แทนโดยชอบธรรม ทำให้จำเลยไม่เข้าใจว่าโจทก์คนไหนฟ้องคดีเอง คนไหนฟ้องโดยผู้แทนโดยชอบธรรม ทำให้จำเลยเสียเปรียบในการสู้คดีนั้น เห็นว่า คำฟ้องของโจทก์ได้ระบุว่าโจทก์ที่ 1 อายุ 24 ปีโจทก์ที่ 2 อายุ 16 ปี ส่วนโจทก์ที่ 3 และโจทก์ที่ 4 นั้นแม้โจทก์ จะมิได้ระบุอายุของโจทก์ที่ 3 ที่ 4 ไว้ แต่กลับระบุอายุของบิดาไว้แทนก็ตาม แต่ก็ปรากฏในคำฟ้องว่าโจทก์ที่ 3 เป็นเด็กหญิง และโจทก์ที่ 4 เป็นเด็กชาย ดังนี้ย่อมพอเข้าใจได้แล้วว่า โจทก์ที่ 1 บรรลุนิติภาวะแล้วและฟ้องคดีด้วยตนเอง ส่วนโจทก์ที่ 2 ที่ 3 และที่ 4 ยังเป็นผู้เยาว์ บิดาผู้แทนโดยชอบธรรมฟ้องคดีแทนฟ้องโจทก์จึงไม่เคลือบคลุม

พิพากษายืน

Share