แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
โจทก์เช่าที่ดินของจำเลย ในสัญญาไม่มีข้อตกลงเกี่ยวกับสถานที่ชำระค่าเช่า โจทก์ต้องเป็นผู้นำค่าเช่าไปชำระให้แก่จำเลยซึ่งเป็นเจ้าหนี้ ณ ภูมิลำเนาของจำเลย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 324และจะต้องชำระภายในกำหนดเวลาตามมาตรา 204
ย่อยาว
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยไปจดทะเบียนการเช่าที่ดินให้โจทก์มีกำหนด 20 ปี หากจำเลยไม่ปฏิบัติ ให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์ โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ตามข้อนำสืบของโจทก์ซึ่งจำเลยไม่ปฏิเสธฟังได้ว่า ในทางปฏิบัติโจทก์เป็นผู้นำค่าเช่าไปชำระให้แก่จำเลยในสัญญาเช่า ตามเอกสารหมาย จ.1 และ จ.2 ก็มิได้ตกลงรายละเอียดกันในเรื่องดังกล่าวนี้ จึงสอดคล้องกับบทบัญญัติของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 324 โดยโจทก์ซึ่งเป็นลูกหนี้จะต้องนำไปชำระให้จำเลยซึ่งเป็นเจ้าหนี้ ณ ภูมิลำเนาของจำเลย และจะต้องชำระภายในกำหนดเวลาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 204 สำหรับเรื่องกำหนดเวลาชำระค่าเช่านั้น ไม่ว่าโจทก์จะต้องชำระค่าเช่าภายในวันที่ 1 มกราคมของทุกปีตามสัญญาเช่าหมาย จ.1 หรือภายในเดือนมกราคม ตามสัญญาเช่าหมาย จ.2ปรากฏว่าค่าเช่าปี พ.ศ. 2521 ซึ่งโจทก์อ้างว่านำไปชำระให้จำเลยที่ บ้านของจำเลยเมื่อวันที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2521 แต่จำเลยไม่รับโดยไม่ให้เหตุผล โจทก์จึงส่งไปให้ทางธนาณัติเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2521 ซึ่งตรงกับสำเนารายงานประจำวันของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตามเอกสารหมาย จ.15 ซึ่งโจทก์ไปแจ้งไว้ ข้อกล่าวอ้างของโจทก์ดังกล่าวไม่น่าเชื่อว่าเป็นความจริงในข้อที่ว่าได้ชำระให้ภายในกำหนดสัญญา เพราะหากเป็นจริงดังกล่าวอ้างโจทก์ก็ชอบที่จะส่งค่าเช่าให้จำเลยทางธนาณัติภายในเดือนมกราคมตามสัญญาเช่าที่ทำกันไว้ซึ่งยังมีเวลาเหลืออยู่อีกหลายวัน ข้อเท็จจริงเป็นดังนี้ จึงฟังได้ว่าโจทก์ชำระค่าเช่าสำหรับปี พ.ศ. 2521 ให้จำเลยหลังจากที่พ้นกำหนดตามสัญญาเช่า อันเป็นเหตุให้จำเลยมีสิทธิบอกเลิกสัญญาเช่ากับโจทก์ได้”
พิพากษายืน