แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ในคดีที่อัยยการแยกฟ้องจำเลยต่างสำนวนกันโดยหาว่าจำเลยสมคบกันกระทำผิดแลพะยานสำคัญของโจทก์ก็เป็นชุดเดียวกันทั้ง 2 สำนวน เมื่อสำนวนแรกศาลพิพากษายกฟ้องไปแล้ว เมื่อศาลเห็นว่าพะยานสำคัญในคดีหลังเบิกความทำนองเดียวกัน +ดีก่อน ศาลจะอ้างถึงคดีก่อนโดยไม่วินิจฉัยรายละเอียดในคดีหลังก็ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยในคดีนี้กับ พ.สมคบกันเป็นผู้ร้ายลักกระบือของเจ้าทรัพย์ไปขอให้ลงโทษตาม ม.๒๙๓-๒๙๔
ปรากฎว่าคดีนี้เป็นกรณีเดียวกับคดีที่อัยยการสิงหบุรีเป็นโจทก์ฟ้อง พ.เป็นจำเลยซึ่งศาลฎีกาพิพากษาเสร็จเด็ดขาดไปแล้วตามคำพิพากษาฎีกาที่ ๓๙๘/๒๔๗๙ โดยยกเหตุผลขึ้นวินิจฉัยไว้โดยละเอียดว่า หลักฐานพะยานโจทก์ไม่พอจะฟังลงโทษจำเลยได้แลพิพากษาให้ยกฟ้อง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า พะยานสำคัญของโจทก์ในคดีนี้ก็เป็นพะยานชุดเดียวกับคดีก่อนแลเบิกความไปทำนองเดียวกัน กล่าวคือเบิกความขัดต่อเหตุผลแลต่างกันในข้อสำคัญหลายอย่าง จะฟังลงโทษจำเลยยังไม่ได้ จึงพิพากษายกฟ้องโจทก์