คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 73/2492

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลย ฐานลักทรัพย์ หรือรับของโจร ข้อเท็จจริงได้ความว่า ของกลางที่จับได้จากบ้านจำเลย เป็นของที่จำเลยช่วยขนหนีอัคคีภัยมาเก็บรักษาไว้ตามคำขอร้องของเจ้าทรัพย์ การกระทำของจำเลยไม่เป็นผิด ฐานลักทรัพย์ หรือรับของโจร.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยที่ ๑ ฐานสมคบกับพวกลักทรัพย์ของนางสายในขณะที่เกิดเพลิงไหม้ และจำเลยที่ ๒ ได้รับทรัพย์บางอย่างที่จำเลยที่ ๑ ลักมา โดยรู้อยู่แล้ว่าเป็นของได้มาจากการะกระทำผิด และจำเลยที่ ๒ ได้เอาความเท็จบอกแก่เข้าพนักงานว่าทรัพย์ที่ลักมาไม่มีอยู่ที่บ้านด้วย เจตนาให้หลงเชื่อในทางที่เป็นเท็จ โดยมีเจตนาช่วยให้จำเลยที่ ๑ พ้นอาญา นางสายยื่นขอเป็นโจทก์ร่วมกับอัยยการ จำเลยให้การว่าเป็นสามีภริยากันและอยู่บ้านเดียวกัน ทรัพย์ที่จับได้จากบ้านจำเลยเป็นของเจ้าทรัพย์จริง เพราะเจ้าทรัพย์ร้องขอให้ช่วยเก็บรักษาไว้ เหตุที่ถูกฟ้องเนื่องจากเจ้าทรัพย์โกรธหาว่า เอาสายพานไปเก็บแล้วไม่คืนให้ ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับว่า จำเลยที่ ๑ มีผิดตาม ก.ม. ลักษณะอาญา มาตรา ๒๙๓ จำคุก ๒ ปี จำเลยที่ ๒ มีผิดตามมาตรา ๓๒๑ จำคุก ๖ เดือน
จำเลยทั้งสองฎีกา,
ศาลฎีกาฟังว่า ของกลางที่จับได้จากบ้านจำเลย เป็นของซึ่งจำเลยที่ ๑ ช่วยขนหนีอัคคีภัย มาเก็บรักษาไว้ตามคำขอร้องนายสาย กากระทำของจำเลยจึงไม่ผิดตามฟ้อง
พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง.

Share