คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 727/2539

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ภ. เป็นบุตรของโจทก์พักอยู่บ้านเดียวกับโจทก์มีอาชีพค้าขายน่าจะทราบเกี่ยวกับกิจการค้าขายของโจทก์เป็นอย่างดีคำเบิกความของ ภ. เกี่ยวกับกิจการค้าขายของโจทก์จึงเป็นประจักษ์พยานไม่ใช่พยานบอกเล่า

ย่อยาว

โจทก์ ฟ้อง ว่า โจทก์ ประกอบ อาชีพ ค้าขาย สินค้า อุปโภค บริโภคจำเลย เป็น ลูกค้า ประจำ ของ โจทก์ ได้ ติดต่อ ซื้อ ขาย เป็น กิจวัตรประจำวันตั้งแต่ ปี 2529 จน ถึง ปัจจุบัน จำเลย ซื้อ สินค้า จาก โจทก์ และ รับ สินค้าไป ครบถ้วน ทุกครั้ง จำเลย ชำระหนี้ เป็น เงินสด แต่ บางครั้ง ก็ ค้างชำระเมื่อ คิด ยอดหนี้ ค้างชำระ จำเลย เป็น หนี้ โจทก์ เป็น เงิน 167,346 บาทขอให้ จำเลย ชำระ เงิน จำนวน 167,346 บาท พร้อม กับ ดอกเบี้ย ใน อัตราร้อยละ 7.5 ต่อ ปี นับแต่ วันฟ้อง จนกว่า จะ ชำระ เสร็จ
จำเลย ให้การ ว่า ไม่เคย ซื้อ สินค้า จาก โจทก์ และ ไม่เคย ค้างชำระหนี้ โจทก์ เอกสาร ท้ายฟ้อง หมายเลข 2 ถึง 4 ไม่ใช่ ลายมือ ของ จำเลยขอให้ ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้น พิจารณา แล้ว พิพากษายก ฟ้อง
โจทก์ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ ภาค 2 พิพากษายืน
โจทก์ ฎีกา โดย ผู้พิพากษา ที่ ได้ นั่งพิจารณา คดี ใน ศาลชั้นต้นรับรอง ว่า มีเหตุ สมควร ที่ จะ ฎีกา ใน ข้อเท็จจริง ได้
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า “พิเคราะห์ แล้ว มี ปัญหา ที่ จะ ต้อง วินิจฉัยตาม ฎีกา ของ โจทก์ ว่า จำเลย เป็น หนี้ โจทก์ ตาม ฟ้อง จริง หรือไม่โจทก์ มี นาย ภาณุวัฒน์ โตมณีพิทักษ์ ผู้รับมอบอำนาจ โจทก์ ปาก เดียว เป็น พยาน เบิกความ ว่า จำเลย เป็น ลูกค้า ซื้อ สินค้า จาก โจทก์ ส่วน ใหญ่จะ เป็น ปลาหมึก และ ปลาทูเค็ม บางครั้ง จำเลย ชำระ เป็น เงินสด บางครั้งจะ นำ สินค้า ไป ก่อน โดย ลง บัญชี ไว้ แล้ว นำ เงิน มา ชำระ ใน ภายหลัง ตั้งแต่วันที่ 1 ถึง 19 กรกฎาคม 2534 จำเลย ได้ ค้างชำระ ค่าสินค้า ได้ เขียนบัญชี รายละเอียด ต่าง ๆ ว่า ค้างชำระ หนี้ โจทก์ จำนวน 167,346 บาทปรากฏ ตาม เอกสาร หมาย จ. 2 ฝ่าย จำเลย ก็ มี จำเลย ปาก เดียว เบิกความ ว่าจำเลย ไม่ได้ ซื้อ สินค้า จาก โจทก์ จึง ไม่มี หนี้สิน ต่อ กัน เอกสาร หมายจ. 2 ไม่ใช่ ลายมือชื่อ ของ จำเลย เห็นว่า นาย ภาณุวัฒน์ เบิกความ ว่า จำเลย เป็น ลูกค้า ซื้อ สินค้า ประเภท ปลาหมึก และ ปลาทูเค็มจาก โจทก์ใน เรื่อง นี้ จำเลย ได้ ตอบ ทนายโจทก์ ถาม ค้าน ว่า จำเลย เคย ประกอบ อาชีพค้าขาย กุ้ง แห้ง และ ปลาหมึก โดย ใช้ ล้อเลื่อน ใน การ จำหน่าย จึง ไป เจือสมคำเบิกความ ของ นาย ภาณุวัฒน์ เมื่อ จำเลย ไม่ได้ นำสืบ ว่า จำเลย ซื้อ กุ้ง แห้ง และ ปลาหมึก จาก ที่ ใด มา จำหน่าย กุ้ง แห้ง และ ปลาหมึกเป็น สินค้า ประเภท บริโภค อย่างหนึ่ง ซึ่ง เป็น สินค้า ที่ โจทก์ ค้าขาย อยู่นาย ภาณุวัฒน์ ได้ ระบุ ว่า ปลาหมึก เป็น สินค้า ส่วน ใหญ่ ที่ จำเลย ซื้อ ไป จาก โจทก์ นาย ภาณุวัฒน์ เป็น บุตร ของ โจทก์ พัก อยู่ บ้าน เดียว กับ โจทก์ มี อาชีพ ค้าขาย น่า จะ ทราบ เกี่ยวกับ กิจการ ค้าขาย ของ โจทก์เป็น อย่างดี คำเบิกความ ของ นาย ภาณุวัฒน์ เกี่ยวกับ กิจการ ค้าขาย ของ โจทก์ จึง เป็น ประจักษ์พยาน ไม่ใช่ พยานบอกเล่า ข้อเท็จจริง จึงฟังได้ ว่า จำเลย ซื้อ กุ้ง แห้ง และ ปลาหมึก จาก โจทก์ มา จำหน่าย ปัญหา ต่อไปว่า จำเลย ค้างชำระ ค่าสินค้า โจทก์ หรือไม่ นาย ภาณุวัฒน์ เบิกความ ว่า ใน การ ซื้อ สินค้า จาก โจทก์ นั้น จำเลย ชำระ ค่าสินค้า ให้ แก่ โจทก์ 2 วิธีคือ ชำระ เงินสด และ เอา สินค้า ไป ก่อน แล้ว ชำระ ใน ภายหลัง ใน กรณี หลัง นี้จำเลย ลง บัญชี ให้ แก่ โจทก์ ไว้ สำหรับ คดี นี้ จำเลย ค้างชำระ ตั้งแต่วันที่ 1 ถึง 19 กรกฎาคม 2534 เป็น เงิน 167,346 บาท โดย จำเลยได้ เขียน รายละเอียด ลง ใน บัญชี ตาม เอกสาร หมาย จ. 2 จำเลย เบิกความเพียง ว่า จำเลย ไม่ได้ เป็น หนี้ โจทก์ เอกสาร หมาย จ. 2 ไม่ใช่ ลายมือของ จำเลย เห็นว่า ตาม คำให้การ จำเลย ไม่ได้ ให้ รายละเอียด โดยชัดแจ้ง ว่าปฏิเสธ ข้ออ้าง ของ โจทก์ ใน เรื่อง นี้ ว่า มี ประการใด บ้าง นาย ภาณุวัฒน์ ได้ ตอบ ทนายจำเลย ถาม ค้าน ให้ รายละเอียด เกี่ยวกับ เรื่อง ที่ จำเลยค้างชำระ หนี้ โจทก์ ไว้ ว่า กรณี จำเลย ชำระ ค่าสินค้า ใน ภายหลัง นั้นโจทก์ จะ เป็น ผู้ เขียน ว่า ส่ง สินค้า อะไร ให้ แก่ จำเลย บ้าง เมื่อ จำเลยตรวจ ดู แล้ว ก็ เขียน ยอดหนี้ มา ให้ แก่ โจทก์ นาย ภาณุวัฒน์ ได้ ยืนยัน ว่า จำเลย เป็น ผู้ เขียน บัญชี รายการ ค่าสินค้า ที่ ค้างชำระ ตาม เอกสาร หมาย จ. 2ให้ แก่ โจทก์ ฝ่าย จำเลย เพียงแต่ ปฏิเสธ ว่า เอกสาร หมาย จ. 2 ไม่ใช่ลายมือ ของ จำเลย โดย ไม่ได้ ปฏิเสธ ว่า รายการ ตาม เอกสาร หมาย จ. 2 นั้นไม่เป็น ความจริง เพราะ ใน เรื่อง ซื้อ ขาย ถึง แม้ จำเลย จะ ไม่ได้ เขียนรายการ ไว้ แต่เมื่อ รายการ ดังกล่าว เป็น ความจริง จำเลย ผู้ซื้อก็ ต้อง รับผิด จำเลย ได้ ตอบ ทนายโจทก์ ถาม ค้าน ว่า จำเลย เคย เป็น ลูกจ้างของ โจทก์ เมื่อ คำนึง ถึง ความ สัมพันธ์ ระหว่าง โจทก์ กับ จำเลย ใน ฐานที่ เคย เป็น นายจ้าง ลูกจ้าง ต่อ กัน ไม่ปรากฏ ว่า เคย มี สาเหตุ โกรธเคือง กันจึง ไม่มี เหตุ ที่ จะ ให้ ระแวง สงสัย ว่า โจทก์ จะ กลั่นแกล้ง สร้าง หลักฐานแห่ง หนี้ ตาม เอกสาร หมาย จ. 2 ขึ้น มา ฟ้องร้อง จำเลย แต่อย่างใดโจทก์ ให้ โอกาส แก่ จำเลย ที่ จะ หา เงิน มา ชำระหนี้ ให้ แก่ โจทก์ เป็น เวลาเกือบ 1 ปี จึง ได้ นำ คดี มา ฟ้องร้อง เรียก ให้ จำเลย ชำระหนี้ น่าเชื่อ ว่านาย ภาณุวัฒน์ ได้ เบิกความ ไป ตาม ความ เป็น จริง ข้อเท็จจริง จึง ฟังได้ ว่า จำเลย เป็น ผู้ เขียน บัญชี รายละเอียด ค่าสินค้า ตาม เอกสาร หมายจ. 2 และ จำเลย ยัง ไม่ได้ชำระ หนี้ จำนวน 167,346 บาท ให้ แก่ โจทก์ จริงเมื่อ หนี้ ดังกล่าว เป็น หนี้ โจทก์ ได้ ทวงถาม ให้ จำเลย ชำระหนี้ แต่ จำเลยไม่ชำระ จำเลย จึง ตกเป็น ผู้ผิดนัด จะ ต้อง ชำระ ดอกเบี้ย ใน อัตรา ร้อยละ7.5 ต่อ ปี ให้ แก่ โจทก์ นับแต่ วัน ผิดนัด ตาม ประมวล กฎหมายแพ่ง และ พาณิชย์ มาตรา 224 แต่ โจทก์ ขอ มา ตั้งแต่ วันฟ้อง จึง คิดให้ เท่าที่ โจทก์ ขอ มา ที่ ศาลอุทธรณ์ ภาค 2 พิพากษา มา นั้น ศาลฎีกาไม่เห็น พ้อง ด้วย ฎีกา ของ โจทก์ ฟังขึ้น ”
พิพากษากลับ ให้ จำเลย ชำระ เงิน จำนวน 167,346 บาท พร้อม ด้วยดอกเบี้ย ใน อัตรา ร้อยละ 7.5 ต่อ ปี ใน ต้นเงิน ดังกล่าว นับแต่ วันฟ้องเป็นต้น ไป จนกว่า จะ ชำระ เสร็จ แก่ โจทก์

Share