แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ฟ้องขอให้ลงโทษฐานพยายามฆ่าคนตายโดยเจตนาตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 249,60 ศาลชั้นต้นไม่เชื่อข้อเท็จจริงพิพากษายกฟ้องแต่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายถึงบาดเจ็บตามมาตรา 254 จำคุก 2 ปี ดังนี้ โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยตามฐานพยายามฆ่าคนตามมาตรา 249,60 ได้ไม่ต้องห้าม
ปืนที่จำเลยใช้ยิงเขาเป็นปืนลูกซองพก ยาวราว 1 คืบกระสุนโตเท่าเมล็ดพริกไทย ยิงในระยะห่าง 5 วาถูกผู้เสียหายกระสุนฝังเนื้อกล้าม หมอได้แคะออกแสดงว่าฝังอยู่ตื้นๆ ผู้เสียหายคนหนึ่งรักษาบาดแผล 10 วันหายอีกคนหนึ่งรักษา 6-7 วันหายประกอบกับโจทก์ไม่ได้สืบว่าปืนนี้ หรือปืนชนิดนี้อย่างนี้มีกำลังแรงมากน้อยเพียงไร สามารถยิงให้ถึงตายได้หรือไม่นั้นควรฟังว่าปืนที่ยิงนั้น ไม่สามารถจะทำให้ผู้ถูกยิงถึงแก่ความตายได้ จำเลยจึงยังไม่ผิดฐานพยายามฆ่าคนตายคงผิดเพียงฐานทำร้ายร่างกายบาดเจ็บเท่านั้น
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยสมคบกันใช้ปืนลูกซองพกยิงนายเชื่อมนางเย็น งามตรงโดยเจตนาจะฆ่าให้ตายหากแต่กระสุนถูกที่ไม่สำคัญ จึงไม่ตาย ขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 249-60-63
จำเลยปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์ พิพากษาลงโทษจำเลยทั้ง 4 ตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 254 ให้จำคุกคนละ 2 ปี
โจทก์ จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาตรวจสำนวนแล้ว ได้ความว่า ปืนที่จำเลยใช้ยิงเป็นปืนลูกซองพกยาวราว 1 คืบ กระสุนโตเท่ากับเมล็ดพริกไทย ยิงห่างในระยะ 5 วา ถูกผู้เสียหายกระสุนฝังเนื้อกล้าม หมอได้แคะออกแสดงว่าฝังอยู่ตื้น ๆ นายเชื่อมรักษาบาดแผล 10 วันหายนางเย็นรักษา 6-7 วันหาย ประกอบกับโจทก์ไม่ได้สืบว่า ปืนนี้ หรือปืนชนิดนี้มีกำลังแรงมากน้อยเพียงไร สามารถยิงให้ถึงตายได้หรือไม่ ดังนั้นจึงควรฟังว่าปืนที่ยิงนี้ไม่สามารถจะทำให้ผู้ถูกยิงถึงแก่ความตายได้จำเลยยังไม่ผิดฐานพยายามฆ่าคนตาย
พิพากษายืน