คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 726/2493

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องว่าได้ซื้อที่ดินมีโฉนดจากจำเลยไม่ได้โอนทะเบียนครอบครองมากว่า 10 ปี จำเลยได้เถียงว่า โจทก์ครอบครองไม่ถึง 10 ปี ดังนี้ตกหน้าที่โจทก์นำสืบ หากโจทก์สืบไม่ได้ว่าได้ครอบครองที่พิพาทมาถึง 10 ปี โจทก์ก็ยังไม่ได้กรรมสิทธิ์ในที่พิพาทโดยการครอบครอง และศาลพิพากษายกฟ้อง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า ที่นาโฉนดที่ ๔๙๔ เป็นของ อ.มารดาโจทก์ อ.ทำพินัยกรรมให้โจทก์ ๒๐ไร่ ให้จำเลย ๑๐ ไร่ เมื่อ อ.ตายต่างได้บันกันครอบครองเป็นส่วนสัดแต่ยังหาได้แบ่งแยกโฉนดไม่ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๐ จำเลยได้ขายที่ส่วนของจำเลย ๑๐ ไร่ให้โจทก์ การซื้อขายไม่ได้ทำหนังสือ โจกท์ได้ขุดถูกปลูกเรือนในที่รายนี้มา ๑๑-๑๒ ปีแล้ว เมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๑ ที่ฟ้องโจทก์ขอแบ่งแยกจำเลยกลับเถียงกรรมสิทธิ จำเลยต่อสู้ว่าไม่ได้ขาย เป็นแต่เมื่อ ๘-๙ ปีมานี้ โจทก์จำเลยตกลงแลกที่กัน จำเลยยอมให้ที่พิพาทซึ่งเป็นส่วนได้ของจำเลยให้โจทก์ ส่วนโจทก์แบ่งที่ส่วนได้ของโจทก์ให้จำลเย ๑๐ ไร่ ทั้งนี้ยังมิได้แบ่งแยกโอนโฉนดนั้น แต่จำเลยได้มอบที่สวนของจำเลยให้โจทก์ไปแล้ว เหตุที่ฟ้องก็เพราะโจทาก์ไม่ชำระค่าเช่าที่ที่จำเลยได้รับแลกเปลี่ยนจากโจทก์ จำเลยไม่ให้เช่าต่อไป
ศาลจังหวัดฉะเชิงเทราเห็นว่า พยานทั้งสองฝ่ายเลอะเลือน แต่เบื้องต้นต้องเชื่อว่าที่เป็นของโจทก์เพราะโจทก์ครอบครองอยู่ โจทก์ครอบครองที่พิพาทมาเกิน ๑๐ ปีย่อมได้กรรมสิทธิ์ พิพากษาให้ที่พิพาทเป็นของโจทก์ห้ามจำเลยเกี่ยวข้อง
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า จำเลยไม่ได้รับว่าโจทก์ครอบครองมากกว่า ๑๐ ปี จึงยังสันนิษฐานว่าผู้ครอบครองเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ไม่ได้ เป็นหน้าที่ต้องสืบข้อนี้ พยานโจทก์ฟังไม่ได้ว่า ได้ซื้อและครอบครองมาถึง ๑๐ ปีแล้ว เชื่อพยาน จำเลยว่าโจทก์ครอบคอรงโดยแลกเปลี่ยนที่เมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๓ ถึงวันฟ้องไม่ถึง ๑๐ ปียังไม่ได้กรรมสิทธิ์ พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา มีประเด็นสำคัญข้อเดียวว่า โจทก์ครอบครองถึงวันฟ้องได้ ๑๐ ปีหรือยัง เพราะการซื้อหรือแลกเปลี่ยนไม่ได้จดทะเบียนโอนโฉนดกัน เมื่อจำเลยได้เถียงว่า โจทก์ครอบครองไม่ถึง ๑๐ ปี คดีตกหน้าที่โจทก์นำสืบ เห็นพ้องด้วยศาลอุทธรณ์ว่า โจทก์นำสืบไม่ได้ว่าได้ครอบครองที่พิพาทมาถึง ๑๐ ปี โจทก์จึงยังไม่ได้กรรมสิทธิ์ในที่พิพาทโดยการครอบครอง พิพากษายืน

Share