แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
สถานีตำรวจป้อมปราบไปตั้งทำการในท้องที่อำเภอสามแยก ไม่ทำให้ความผิดอาญาที่เกิดขึ้นบนสถานีตำรวจป้อมปราบอยู่ในอำนาจสอบสวนของตำรวจสถานีป้อมปราบ
ย่อยาว
คดีนี้โจทก์ฟ้องว่าจำเลยหมิ่นประมาทนางเลื่อน สังขนิล เหตุเกิที่สถานีตำรวจป้อมปราบตำบลสามแยก อำเภอสัมพันธวงศ์ จังหวัดพระนคร นางเลื่อนผู้เสียหายร้องทุกข์ขอให้ว่ากล่าวพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจสามแยกได้ทำการสอบสวนความผิดไว้แล้วขอให้ลงโทษตามกฎหมายอาญามาตรา ๒๘๒
จำเลยให้การปฏิเสธและตัดฟ้องว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้สอบสวนคดีนี้ไม่มีอำนาจสอบสวน
ทางพิจารณาปรากฏว่านายร้อยตำรวจโทพยอม เพ็ชร์ไทย แห่งสถานีตำรวจป้ามปราบเป็นผูสอบสวนคดีนี้
ศาลแขวงพระนครใต้เห็นว่าข้อตัดฟ้องของจำเลยฟังไม่ขึ้น เพราะไม่คัดค้านเสียแต่ในขณะทำการสอบสวน อนึ่งแม้จะฟังว่าความผิดได้เกิดขึ้นในเขตต์สถานีสามแยกก็ดีแต่มีเหตุผลที่นายร้อยตำรวจโทพยอมจะอ้างหรือเชื่อว่าได้เกิดในเขตต์ของเขาตาม ประมวล วิธีพิจารณาความอาญามาตรา ๑๘ ในที่สุดพิพากษาลงโทษปรับจำเลยตามกฎหมายที่โจทก์อ้าง
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่าความผิดเกิดในเขตต์ท้องที่ตำบลสามแยกเป็นอำนาจของพนักงานสอบสงนสถานีตำรวจสามแยกเป็นผู้สอบสวน ฉะนั้นคดีนี้เท่ากับไม่มีการสอบสวนซึ่งประมวลวิธีพิจารณาความอาญามาตรา ๑๒๐ ห้ามมิให้อัยยการฟ้อง จึงพิพากษากลับศาลแขวงยกฟ้องโจทก์
แต่อธิบดีศาลอุทธรณ์มีความเห็นแย้งว่าเหตุเกิดในที่ทำการชั่วคราวของตำรวจป้อมปราบ แม้จะอยู่ในท้างที่ตำรวจสามแยกก็ต้องถือว่าเกิดในเขตต์อำนาจอขตำรวจป้อมปราบและ ประมวลวิธีพิจารณาความอาญามาตรา ๑๘ วรรค ๑ ให้อำนาจพนักงานสอบสวนว่าแม้แต่อ้างหรือเชื่อว่าความผิดเกิดในเขตต์อำนาจของเขาก็มีอำนาจสอบสวนความผิดนั้นได้ การสอบสวนคดีนี้ถูกตามกฎหมายศาลอุทธรณ์หาควรยกฟ้องไม่
โจทก์ฎีกาว่าการสอบสวนนี้ใช้ได้
ศาลฎีกาเห็นว่า เรื่องนี้พนักงานตำรวจสถานีป้อมปราบทำการสอบสวนไม่ได้ เพราะเหตุไม่ได้เกิดในท้างที่ตำรวจป้อมปราบ และไม่เข้าหลักเกณฑ์ตามมาตรา ๑๘ วรรค ๑ แห่ง ประมวลวิธีพิจารณาความอาญา อนึ่งแม้จำเลยจะไม่คัดค้านการสอบสวนนี้เสียแต่ในขณะสอบสวนก็ตาม การสอบสวนนี้ก็หาเป็นผลใช้ได้ไม่ เมื่อการสอบสวนนี้ใช้ไม่ได้แล้วก็เท่ากับไม่มีการสอบสวนซึ่งมาตรา ๑๒๐ ห้ามมิให้อัยยการฟ้องจึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์