แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยเอาลูกกุญแจของเจ้าทรัพย์ไขหีบบรรจุทรัพย์แล้วลักเอาทรัพย์ไปเมื่อโจทก์ไม่ระบุว่าจำเลยได้ลูกกุญแจนั้นมาอย่างไร จะลงโทษจำเลยตาม ม.293(4) มิได้
คดีอาญาที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำคุกจำเลย 2 เดือนและรอการลงอาญาไว้โจทก์ฎีกาได้แต่ข้อกฎหมาย
ปัญหาที่ว่าลูกกุญแจนั้นจำเลยอยู่โดยผิดกฎหมายหรือไม่เป็นปัญหาข้อเท็จจริง
ย่อยาว
จำเลยลักสร้อยคอทองคำของ ย. โดยใช้ลูกกุญแจของ ย.ไชหีบบรรจุทรัพย์นั้นโจทก์ขอให้ลงโทษจำเลยตาม ก.ม.อาญา ม.๒๙๓
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันให้ลงโทษจำเลยตาม ก.ม.อาญา ม. ๒๘๘
โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษตาม ม.๒๙๓ ข้อ ๔
ศาลฎีกาตัดสินว่า ศาลล่างฟังต้องกันมาว่าลูกกุญแจนั้นจำเลยมิได้มีอยู่โดยผิดกฎหมายซึ่งเป็นข้อเท็จจริงในเบื้องต้นว่าจำเลยได้มาโดยอย่างไรจึงเอาไปไชได้ เมื่อโจทก์ไม่ได้สืบพะยาน ฎีกาของโจทก์จึงตกไป พิพากษายืนตามศาลล่างทั้งสอง