แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
สองคนด่าว่ากันอยู่ที่ถนนหลวงแล้วคนหนึ่งไปพาบุตรของตนมา พอมาถึงผู้เป็นบุตรก็เข้าทำร้ายอีกฝ่ายหนึ่งดังนี้ ถือว่า-ทั้งสามคนมีความผิดฐานวิวาทต่อสู้กันในถนนหลวง
ย่อยาว
ข้อเท็จจริงได้ความว่านายสินกับนางผาดวิวาททะเลาะด่าว่ากันในตลาดนัดกลางถนนหลวง แล้วนางผาดกลับบ้านนายสินท้าให้มาสู้กัน นางผาดจึงไปหานายปรีชาบุตรมาต่อสู้ใช้เท้าเตะถูกปากนายสิน
ศาลชั้นต้นเห็นว่านายสินเป็นคู่วิวาทกับนางผาดมารดานายปรีชา เมื่อนายสินท้าทายซึ่งแสดงเจตนาวิวาท นางผาดก็กลับไปตามบุตรชายมาเป็นคู่ต่อสู้กับนายสินฐานะของนายปรีชาจึงร่วมกับนางผาดเป็นคู่วิวาทกับนายสินด้วย หาใช่เป็นเรื่องบังอาจทำร้ายกันข้างเดียวหรือเรื่องป้องกันตัวไม่ ความผิดของจำเลยจึงต้องด้วยมาตรา ๓๓๕(๖).
นายสินจำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่ากรณีเป็นเพียงทะเลาะด่ากันเท่านั้นส่วนนายปรีชามาถึงก็เตะเอานายสินเข้าโดยไม่มีวิวาทอะไรกัน จึงไม่ผิดตามมาตรา ๓๓๕ (๖) และโดยเป็นลักษระคดี จึงพิพากษายกฟ้องปล่อยจำเลยทั้ง ๓ คน.
โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาฟังว่านางผาดนายปรีชาสมคบกันวิวาทกับนายสิน ๆ จะคัดค้านว่าไม่ได้วิวาทด้วยไม่ได้ เพราะได้เป็นผู้ท้าทายเข้าต่อสู้กันและการที่นางผาดพานายปรีชามาต่อสู้กับนายสินก็อยู่ในเวลาต่อเนื่องกันนั้นเอง จึงพิพากษากลับให้บังคับคดีไปตามคำวินิจฉัยของศาลชั้นต้น.