แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องเรียกเงินค่าแชร์เปียหวยจากจำเลย จำเลยให้การว่ามิได้เล่นแชร์กับโจทก์ ถ้าหากปรากฎว่าจำเลยเล่นแชร์กับโจทก์ จำเลยก็ได้จ่ายเงินให้โจทก์ไปหมดแล้ว ดังนี้ เป็นคำให้การที่ขัดกัน ไม่ประกอบชอบด้วยเหตุผลที่จำเลยจะนำสืบตามคำให้การของจำเลย ๆ มิได้แถลงต่อศาลว่าจะสืบแต่เฉพาะทางใดทางหนึ่ง แน่ หากแต่จะสืบทั้งสองทางเช่นนี้ ไม่มีประโยชน์ที่จะให้จำเลยสืบ
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นผู้จัดการเรียกหุ้นส่วนลงแชร์เปียหวย หุ้นละ ๓๐๐ บาท โจทก์ถือหุ้นด้วย ๑ หุ้น และได้ส่งเงินให้จำเลยไปแล้ว ๖,๓๐๐ บาท ครั้งโจทก์ประมูลได้ ซึ่งจะได้รับเงิน ๖,๓๐๐ บาท จากจำเลยๆ ไม่จ่ายให้ จึงขอให้บังคับใช้เงินดังกล่าวพร้อมดอกเบี้ยแต่วันฟ้อง
จำเลยให้การว่า ไม่ได้เล่นแชร์เปียหวยกับโจทก์ หากปรากฏว่า จำเลยเล่นแชร์กับโจทก์ จำเลยก็ได้จ่ายเงินสดให้โจทก์ไปหมดแล้ว ภายใน ๓ วันนับแต่วันประมูลแชร์ได้ ขอให้ยกฟ้อง
เมื่อสืบพยานโจทก์แล้ว ศาลชั้นต้นเห็นว่า ตามคำให้การจำเลยไม่มีประเด็นจะนำสืบได้ จึงสั่งงดแล้วพิพากษาให้จำเลยใช้เงินโจทก์ตามฟ้อง
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกาขอสืบพยาน และว่าพยานโจทก์ไม่พอฟัง
ศาลฎีกาเห็นว่า คำให้การจำเลยขัดกัน ไม่ประกอบชอบด้วยเหตุผลที่จำเลยจะนำสืบตามคำให้การของจำเลย ๆ มิได้แถลงต่อศาลว่าจะสืบแต่เฉพาะทางใดทางหนึ่งแน่ หากแต่จะสืบทั้งสองทางเช่นนี้ ให้จำเลยสืบไปก็เสียเวลาเปล่า ส่วนพยานโจทก์ฟังได้ตามฟ้อง
พิพากษายืน