คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7193/2554

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

สัญญาเช่าซื้อได้ระบุแบ่งแยกสิทธิเรียกค่าเสียหายของเจ้าของหรือผู้ให้เช่าซื้อไว้ 2 กรณี คือ กรณีรถถูกริบโดยไม่ใช่ความผิดของผู้เช่าซื้อ ส่วนอีกกรณีหนึ่ง คือ กรณีที่รถถูกริบไปเพราะความผิดของผู้เช่าซื้อ ข้อสัญญาดังกล่าวยังไม่อาจถือได้ว่าผู้ร้องซึ่งเป็นผู้ให้เช่าซื้อต้องการราคาเช่าซื้อเป็นสำคัญโดยผู้เช่าซื้อจะนำทรัพย์สินที่ให้เช่าซื้อไปใช้อย่างไรก็ได้ คดีจึงฟังไม่ได้ว่าผู้ร้องยื่นคำร้องขอคืนรถกระบะของกลางเพื่อประโยชน์ของบุคคลอื่นอันเป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริตและไม่อาจถือว่าผู้ร้องรู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิดของจำเลยทั้งสาม ผู้ร้องจึงมีสิทธิขอคืนของกลางได้

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องจากศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางมีคำพิพากษาให้ลงโทษจำเลยทั้งสาม และริบรถกระบะหมายเลขทะเบียน ยล 596 กรุงเทพมหานคร ของกลาง
ผู้ร้องยื่นคำร้อง ขอให้ศาลสั่งให้คืนรถกระบะของกลางแก่ผู้ร้อง
โจทก์ยื่นคำร้องคัดค้าน ขอให้ยกคำร้อง
ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางไต่สวนแล้ว มีคำสั่งให้ยกคำร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์คำสั่งต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศวินิจฉัยว่า ตามสัญญาต่อท้ายสัญญาเช่าซื้อที่ระบุว่าหากรถถูกใช้เป็นยานพาหนะในการกระทำผิดจนเป็นเหตุให้ถูกริบให้ถือว่าสัญญาสิ้นสุดลง และผู้เช่าซื้อจะต้องชดใช้ให้แก่เจ้าของ (ผู้ให้เช่าซื้อ) ตามที่กำหนดไว้ในสัญญาข้อ 5 วรรคสอง นั้น ตามสัญญาข้อ 5 วรรคสอง ได้ระบุแบ่งแยกสิทธิเรียกค่าเสียหายของเจ้าของหรือผู้ให้เช่าซื้อไว้ 2 กรณี คือ กรณีรถถูกริบโดยไม่ใช่ความผิดของผู้เช่าซื้อ ผู้เช่าซื้อต้องชดใช้ค่าเสียหายหรือเบี้ยปรับหรือค่าใช้จ่ายในการติดตามรถตามจำนวนที่เจ้าของได้ใช้จ่ายไปตามความจำเป็นและมีเหตุอันสมควร ส่วนอีกกรณีหนึ่งคือกรณีที่รถถูกริบไปเพราะความผิดของผู้เช่าซื้อ ผู้เช่าซื้อต้องชดใช้ค่าเสียหายเท่ากับจำนวนหนี้ค้างชำระตามสัญญาเช่าซื้อแก่เจ้าของหรือผู้ให้เช่าซื้อ เช่นนี้ ความรับผิดของผู้เช่าซื้อตามสัญญาที่มีต่อเจ้าของรถหรือผู้ให้เช่าซื้อจึงไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับว่าผู้เช่าซื้อมีส่วนผิดในการที่รถของกลางถูกริบไปหรือไม่ คดีนี้ข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่านางสาวพัชรินทร์ผู้เช่าซื้อรถกระบะของกลางมีส่วนผิดในการที่รถคันดังกล่าวถูกริบไปหรือไม่ ทั้งตามข้อสัญญาดังกล่าวยังไม่อาจถือได้ว่าผู้ร้องต้องการราคาเช่าซื้อเป็นสำคัญโดยผู้เช่าซื้อจะนำทรัพย์สินที่ให้เช่าซื้อไปใช้อย่างไรก็ได้ดังที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางวินิจฉัยเพราะหากฟังไม่ได้ว่าผู้เช่าซื้อมีส่วนผิดในการที่รถของกลางถูกริบ ความรับผิดของผู้เช่าซื้อตามข้อสัญญาข้อ 5 ดังกล่าวข้างต้นย่อมน้อยกว่ากรณีผู้เช่าซื้อมีส่วนผิดอยู่ด้วย ลำพังข้อตกลงในสัญญาเช่าซื้อดังกล่าวโดยไม่ปรากฏพฤติการณ์หรือข้อเท็จจริงอื่นใดอีกย่อมไม่อาจรับฟังได้ว่า การที่ผู้ร้องขอคืนรถกระบะของกลางเป็นไปเพื่อประโยชน์ของบุคคลอื่น แต่เป็นเรื่องที่ผู้ร้องใช้สิทธิของตนในฐานะที่ผู้ร้องเป็นเจ้าของและสัญญาเช่าซื้อได้สิ้นสุดลงไปแล้ว คดีจึงฟังไม่ได้ว่าผู้ร้องยื่นคำร้องขอคืนรถกระบะของกลางเพื่อประโยชน์ของบุคคลอื่นอันเป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต และไม่อาจถือว่าผู้ร้องรู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิดของจำเลยทั้งสามดังที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางวินิจฉัย อุทธรณ์ของผู้ร้องข้อนี้ฟังขึ้น
พิพากษากลับ ให้คืนรถกระบะหมายเลขทะเบียน ยล 596 กรุงเทพมหานคร ของกลางแก่ผู้ร้อง

Share