คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 716/2525

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้เช่าซื้อผิดสัญญา เมื่อมีการเลิกสัญญาเช่าซื้อแล้วผู้ให้เช่าซื้อย่อมมีสิทธิรับเงินค่าเช่าซื้อที่รับไว้แล้วทั้งหมด กับมีสิทธิเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนความเสียหายที่ผู้เช่าซื้อได้ใช้ทรัพย์ของผู้ให้เช่าซื้อตลอดระยะเวลาที่ผู้ซื้อครอบครองทรัพย์ดังกล่าวอยู่
(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1195/2511)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 เช่าซื้อรถยนต์ 1 คันจากโจทก์ กำหนดชำระเงิน 19 งวด โดยมีจำเลยที่ 2 เป็นผู้ค้ำประกัน จำเลยที่ 1 ผิดนัดไม่ชำระเงินตั้งแต่งวดที่ 10 เป็นต้นมาเกิน 2 งวดติดต่อกัน สัญญาเช่าซื้อจึงเลิกกันตั้งแต่วันผิดนัดต่อมาโจทก์ยึดรถยนต์ดังกล่าวคืน ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ค่าเสียหายคิดเป็นรายเดือนตั้งแต่วันที่สัญญาเช่าซื้อเลิกกันจนถึงวันที่โจทก์ยึดรถยนต์คืน

จำเลยที่ 1 ให้การว่า จำเลยที่ 1 ไม่ได้ผิดนัดชำระค่าเช่าซื้อและจำเลยที่ 1 ได้บอกเลิกสัญญาเช่าซื้อและส่งมอบรถยนต์คืนให้โจทก์แล้ว ขอให้ยกฟ้อง

จำเลยที่ 2 ให้การว่า สัญญาเช่าซื้อเลิกกันไปแล้วและจำเลยที่ 1 ได้ส่งมอบรถยนต์คืนให้โจทก์ไปแล้ว ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษายกฟ้องโจทก์

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้จำเลยทั้งสองชำระค่าเสียหายแก่โจทก์ตามฟ้อง

จำเลยทั้งสองฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งรับเฉพาะฎีกาของจำเลยที่ 2

ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยที่ 1 ผิดสัญญาเช่าซื้อและมิได้คืนรถยนต์แก่โจทก์จนกระทั่งโจทก์ยึดรถยนต์คืนมา แล้ววินิจฉัยข้อกฎหมายว่า เมื่อมีการเลิกสัญญาเช่าซื้อแล้ว ผู้ให้เช่าซื้อย่อมมีสิทธิริบเงินค่าเช่าซื้อที่รับไว้แล้วทั้งหมด กับมีสิทธิเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนความเสียหายที่ผู้เช่าซื้อได้ใช้ทรัพย์ของผู้ให้เช่าซื้อตลอดระยะเวลาที่ผู้เช่าซื้อครอบครองทรัพย์ดังกล่าวอยู่

พิพากษายืน

Share