คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 715/2503

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อวันสิ้นหรือวันสุดท้ายแห่งอายุอุทธรณ์ เป็นวันอาทิตย์หรือวันหยุด ต้องนับวันเริ่มทำงานใหม่เป็นวันสุดท้ายแห่งอายุอุทธรณ์
‘นักโทษเด็ดขาด’ตามมาตรา 3 แห่งพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ.2500 ให้หมายความว่า นักโทษเด็ดขาดตาม พระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.ศ.2479 ซึ่งหมายแดงแจ้งโทษเด็ดขาดได้ออกก่อนหรือในวันที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับ

ย่อยาว

คดีนี้ศาลอาญาพิพากษาจำคุกจำเลย 4 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 291, 78 เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2500 ต่อมาวันที่ 29 เมษายน 2500 จำเลยยื่นคำร้องต่อศาลอาญาว่าไม่ติดใจอุทธรณ์ขอให้ศาลออกหมายแดงแจ้งโทษเด็ดขาดเพื่อจำเลยจะได้รับพระราชทานอภัยโทษในวันที่ 13 พฤษภาคม2500 ศาลอาญาสั่งว่ายังไม่เกินกำหนดออกหมายแดงไม่ได้ เพราะโจทก์อาจอุทธรณ์ได้ วันที่ 16 พฤษภาคม 2500 ศาลอาญาออกหมายจำคุกเมื่อคดีถึงที่สุด

จำเลยยื่นคำร้องต่อศาลอาญาว่าการที่ศาลออกหมายแดงแจ้งโทษเด็ดขาดของจำเลยเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2500 ทำให้จำเลยเสียสิทธิในการที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษ จึงขอให้ศาลอาญาแก้ไขวันออกหมายแดงเสียใหม่ ศาลอาญาสั่งว่า ศาลออกหมายแดงก่อนวันที่ 16 พฤษภาคม 2500 ไม่ได้ ให้ยกคำร้อง

จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า เมื่อวันสิ้นหรือวันสุดท้ายแห่งอายุอุทธรณ์ในคดีนี้คือ วันที่ 12 พฤษภาคม 2500 เป็นวันอาทิตย์หรือวันหยุดจึงต้องนำมาตรา 161 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาใช้ประกอบกับมาตรา 198 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา และวันที่ 13 และ 14 พฤษภาคม 2500 ทางราชการมีประกาศให้เป็นวันหยุดอีกด้วยก็ต้องนับวันที่เริ่มทำงานใหม่ คือ วันที่ 15 พฤษภาคม 2500 เป็นวันสุดท้ายแห่งอายุอุทธรณ์ และตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 ประกอบกับประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 147 วรรค 2 คดีจะยังไม่ถึงที่สุดจนกว่าจะพ้นวันที่15 พฤษภาคม 2500 ฉะนั้น ที่ศาลออกหมายแดงในวันที่ 16 พฤษภาคม 2500ชอบแล้ว ตามมาตรา 3 พระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ. 2500ก็บัญญัติว่า “นักโทษเด็ดขาด” ที่อยู่ในข่ายได้รับพระราชทานอภัยโทษให้หมายความว่านักโทษเด็ดขาดตามพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.ศ. 2479 ฯลฯ ซึ่งหมายแจ้งโทษเด็ดขาดได้ออกก่อนหรือในวันที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับ โดยมีความประสงค์จะให้ถือวันออกหมายเป็นสำคัญ จึงไม่มีเหตุผลอันใดที่จำเลยจะอ้างได้ว่าเป็นการเอาวิธีปฏิบัติในการออกหมายมาลบล้างผลที่จำเลยจะได้รับตามพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษพ.ศ. 2500 นั้น

พิพากษายืน

Share