คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 714/2493

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่มีผู้คัดค้านให้ถอนการยึดทรัพย์ที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ยึดไว้ และเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สั่งให้ถอนการยึด ดังนี้โจทก์ย่อมร้องต่อศาลได้ตาม มาตรา146

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้กองมรดก ส. ล้มละลาย ศาลแพ่งสั่งให้พิทักษ์ทรัพย์ชั่วคราว นางส้มจีนยื่นคำร้องต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ว่าทรัพย์ที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ยึดไว้ ผู้ร้องได้รับโอนจากนายประพันธ์ บุตร ส. โดยสุจริตและมีค่าตอบแทน โจทก์คัดค้านเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สั่งให้ถอนการยึด โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลแพ่งศาลแพ่งสั่งยืน โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย มาตรา 158 ให้ศาลวินิจฉัยเรื่องขัดทรัพย์ต่อเมื่อเจ้าพนักงานได้สั่งไม่ให้ถอนไม่เกี่ยวกับโจทก์ และมาตรานี้ไม่ใช่ให้โจทก์เข้ามาสู่คดีดังประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 288 เมื่อเจ้าพนักงานสั่งให้ถอนการยึดก็ไม่เข้ามาตรา 158 โจทก์จึงไม่อยู่ในฐานะที่จะขอให้ศาลยกคำคัดค้านของนางส้มจีน หากโจทก์จะถือว่าอุทธรณ์ตาม มาตรา 146 ก็ต้องไม่ขัดต่อมาตรา 158 และโจทก์ไม่ได้คัดค้านว่าคำสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ขัดต่อกฎหมาย พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า มาตรา 158 เป็นบทบัญญัติว่า ถ้าเจ้าพนักงานพิทักษ์ สั่งไม่ให้ถอนการยึด ผู้คัดค้านจึงจะร้องต่อศาลได้แต่ไม่มีบอกว่า ถ้าเจ้าพนักงานพิทักษ์ให้ถอนการยึดเจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์จะมีทางอย่างใด จึงเห็นว่าผู้เป็นโจทก์ย่อมร้องต่อศาลได้โดยอาศัยมาตรา 146 ไม่เห็นพ้องด้วยศาลอุทธรณ์

พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ศาลอุทธรณ์พิพากษาพิจารณาใหม่ตามรูปคดี

Share