แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ละเมิดรู้ว่าผู้อื่นบุกรุกที่ของตนแต่ไม่ว่ากล่าว ภายหลังจะฟ้องขอให้บังคับให้รื้อถอนไม่ได้ ศาลให้แต่ค่าเสียหายส่วนที่ดินที่รุกคงเป็นสิทธิของเจ้าของ
ย่อยาว
ได้ความว่าจำเลยได้ปลูกกำแพงรุกล้ำเข้ามาในที่ของโจทย์ คิดเป็นเนื้อที่ ๒ ๑/๒ ตารางวาครึ่งและในระหว่างที่จำเลยปลูกอยู่นั้นโจทย์ทราบแต่ไม่ว่ากล่าว แต่ปรากฎว่าการที่จำเลยทำไปนั้นได้ทำไปโดยสุจริต และโดยมีเหตุผลสมควร โดยเชื่อว่ากำแพงที่ทำนั้นไม่ได้รุกเข้าไปในที่ของโจทย์
โจทย์จึงฟ้องขอให้บังคับจำเลยรื้อถอนกำแพงนั้นออกไป แลเรียกค่าเสียหาย
ศาลต่างประเทศไม่บังคับให้จำเลยรื้อ เพราะอาจให้จำเลยใช้ค่าเสียหายทดแทนได้ จึงคิดค่าเสียหายให้โจทย์เป็นเงิน ๓๖๕ บาท ๕ สตางค์ ตามราคาอันสมควรสำหรับที่ดินที่จำเลยได้รุก โดยเทียบกับราคาที่ดินซึ่งจำเลยได้ซื้อไว้
ศาลอุทธรณเห็นว่า ที่รายพิภาษที่จำเลยได้รุกเป็นกรรสิทธิของโจทย์ ๆ มีอำนาจให้รื้อถอนได้ ถ้าโจทย์ประสงค์จะให้รื้อกำแพง ก็ให้โจทย์เป็นผู้ใช้ค่าเสียหายอันเกิดขึ้นแก่จำเลย เพราะเหตุที่ต้องรื้อแลปลูกใหม่นี้
โจทย์ฎีกา ศาลฎีกาตัดสินว่า โจทย์มีสิทธิจะร้องขอให้แสดงว่าที่ดินส่วนที่จำเลยปลูกนั้น ยังคงเป็นกรรมสิทธิของโจทย์อยู่ ส่วนความอื่นพิพากษายืนตามศาลต่างประเทศ อ้างตัวอย่างฎีกาที่ ๗๕๕/๑๒๑