คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7130/2554

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การซื้อขายสิทธิเรียกร้องอันจะมีผลให้ผู้ซื้อมีสิทธิบังคับชำระหนี้หรือเข้าสวมสิทธิแทนเจ้าหนี้เดิมบังคับชำระหนี้เอาแก่ลูกหนี้นั้น จะต้องมีบทบัญญัติแห่งกฎหมายให้กระทำได้ เช่น พ.ร.ก.การปฏิรูประบบสถาบันการเงิน พ.ศ.2540 พ.ร.ก.บริษัทบริหารสินทรัพย์ พ.ศ.2541 พ.ร.ก.บริษัทบริหารสินทรัพย์ไทย พ.ศ.2544 หรือการขายทรัพย์สินที่เป็นสิทธิเรียกร้องของลูกหนี้โดยเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 123 ผู้ร้องซื้อสิทธิเรียกร้องจากกองทุนรวม ก. เจ้าหนี้ในสิทธิที่จะได้รับชำระหนี้จากกองทรัพย์สินของลูกหนี้ที่ 2 ในคดีล้มละลายตามสัญญาโอนสิทธิเรียกร้อง ซึ่งไม่มีกฎหมายอนุญาตให้กระทำ ผู้ร้องจึงไม่ได้รับมาซึ่งสิทธิในการได้รับชำระหนี้จากกองทรัพย์สินของลูกหนี้ที่ 2

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องจากศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้ (จำเลย) ที่ 2 เด็ดขาด กองทุนรวมแกมม่าแคปปิตอล เจ้าหนี้ ยื่นคำขอรับชำระหนี้ตามสัญญาค้ำประกันจากกองทรัพย์สินของลูกหนี้ที่ 2 และศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งให้กองทุนรวมแกมม่าแคปปิตอล เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้ตามสัญญาค้ำประกันเป็นเงิน 33,850,349.19 บาท โดยให้มีสิทธิได้รับชำระหนี้จากการขายทอดตลาดที่ดินโฉนดเลขที่ 72212, 72232, 72233 ตำบลบึงคำพลอย อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี พร้อมสิ่งปลูกสร้างของลูกหนี้ที่ 2 ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 96 (3) ไม่เกินวงเงิน 29,016,267.02 บาท ก่อนเจ้าหนี้รายอื่น ส่วนที่เกินวงเงินหรือยังขาดอยู่จำนวนเท่าใด ให้ได้รับชำระหนี้จากกองทรัพย์สินของลูกหนี้ที่ 2 อย่างเจ้าหนี้สามัญ ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 130 (7) โดยมีเงื่อนไขว่ามูลหนี้อันดับ 1 ถึง 3 หากเจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้จากนายประภาส ลูกหนี้ชั้นต้น และ/หรือนางไพจิตร และ/หรือนายยงยุทธ และ/หรือนายทองเบิ้ม และ/หรือได้รับชำระหนี้จากการบังคับจำนองที่ดินโฉนดเลขที่ 72214, 72229, 72236 และเลขที่ 72210, 72211 และเลขที่ 72213, 72230 ถึง 72235 ตำบลบึงคำพลอย อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี ของนางไพจิตร และของนายยงยุทธ และของนายทองเบิ้ม ผู้ค้ำประกันร่วมแล้วเพียงใด ให้สิทธิได้รับชำระหนี้ในคดีนี้ลดลงมาเพียงนั้นและมูลหนี้อันดับ 4 หากได้รับชำระหนี้จากนางสาวโสมนัส ลูกหนี้ชั้นต้นแล้วเพียงใดให้สิทธิในคดีนี้ลดมาเพียงนั้น ส่วนที่ขอเกินมาให้ยกเสีย คดีถึงที่สุด ต่อมาผู้ร้องยื่นคำร้องต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ว่า ผู้ร้องได้ซื้อสิทธิเรียกร้องที่เจ้าหนี้มีต่อลูกหนี้ และเจ้าหนี้ได้โอนสิทธิต่าง ๆ ในการได้รับชำระหนี้ที่มีต่อลูกหนี้ทั้งหมดให้แก่ผู้ร้องแล้ว ขอให้มีคำสั่งอนุญาตให้ผู้ร้องเข้าสวมสิทธิแทนกองทุนรวมแกมม่าแคปปิตอล เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีคำสั่งว่าการขอสวมสิทธิของผู้ร้องไม่มีกฎหมายบัญญัติให้กระทำได้ ผู้ร้องจึงไม่สามารถเข้าสวมสิทธิแทนเจ้าหนี้ ให้ยกคำร้อง
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ผู้ร้องเข้าสวมสิทธิแทนเจ้าหนี้เพื่อผู้ร้องจะได้รับชำระหนี้จากกองทรัพย์สินของลูกหนี้ต่อไป
ศาลล้มละลายกลางตรวจคำร้องแล้ว เห็นว่า กรณีเป็นเรื่องที่ผู้ร้องชอบจะดำเนินการบังคับตามสิทธิที่ผู้ร้องมี ไม่มีกฎหมายใดให้อำนาจผู้ร้องเข้าสวมสิทธิได้ ให้ยกคำร้อง ค่าคำร้องเป็นพับ
ผู้ร้องอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีล้มละลายวินิจฉัยว่า เห็นว่า การซื้อขายสิทธิเรียกร้องอันจะมีผลให้ผู้ซื้อมีสิทธิบังคับชำระหนี้หรือเข้าสวมสิทธิแทนเจ้าหนี้เดิมบังคับชำระหนี้เอาแก่ลูกหนี้นั้น จะต้องมีบทบัญญัติแห่งกฎหมายให้กระทำได้ เช่น พระราชกำหนดการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน พ.ศ.2540 พระราชกำหนดบริษัทบริหารสินทรัพย์ พ.ศ.2541 พระราชกำหนดบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย พ.ศ.2544 หรือการขายทรัพย์สินที่เป็นสิทธิเรียกร้องของลูกหนี้โดยเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 123 ผู้ร้องซื้อสิทธิเรียกร้องจากกองทุนรวมแกมม่าแคปปิตอล เจ้าหนี้ ในสิทธิที่จะได้รับชำระหนี้จากกองทรัพย์สินของลูกหนี้ที่ 2 ในคดีล้มละลาย ตามสัญญาโอนสิทธิเรียกร้อง ซึ่งไม่มีกฎหมายอนุญาตให้กระทำ ผู้ร้องจึงมิได้รับมาซึ่งสิทธิในการได้รับชำระหนี้จากกองทรัพย์สินของลูกหนี้ที่ 2 แต่อย่างใด ที่ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งยกคำร้องของผู้ร้องมานั้นชอบแล้ว ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ของผู้ร้องฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นนี้ให้เป็นพับ

Share