แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
บริษัทจำเลยมิได้เข้าร่วมทำการขนส่งหรือขนถ่ายสินค้า การขนส่งได้กระทำโดยเรือ น. เพียงทอดเดียวจากประเทศสิงคโปร์มายังประเทศไทย จำเลยจึงมิได้เป็นผู้ขนส่งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ลักษณะ 8 รับขน อันเป็นบทกฎหมายใกล้เคียงกับการรับขนทางทะเลตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 609 แม้ว่าจำเลยจะเป็นผู้แจ้งการมาถึงของสินค้าให้ผู้รับตราส่งทราบ ให้ผู้รับตราส่งนำใบตราส่งมามอบเพื่อรับใบเบิกสินค้าจากจำเลยและการกระทำของจำเลยจะได้ค่าตอบแทนจากบริษัทผู้ขนส่งก็ตาม แต่การกระทำของจำเลยดังกล่าวเป็นเพียงผู้รับจ้างหรือตัวแทนของบริษัทผู้ขนส่งในการติดต่อกับท่าเรือเจ้าหน้าที่และผู้รับตราส่งเท่านั้น ไม่ได้มีลักษณะเป็นผู้ขนส่งหลายคนหลายทอดตามความใน ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 618 จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดในการที่สินค้าสูญหายหรือบุบสลายหรือส่งชักช้า.(ที่มา-ส่งเสริม)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อปลายปี พ.ศ. 2523 ห้างหุ้นส่วนจำกัดสตาร์อีเล็คโทรนิคส์ได้สั่งซื้อชิ้นส่วนสำหรับผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้าจากบริษัทรูบี้คอร์น สิงคโปร์ พีทีอี จำกัด ประเทศสิงคโปร์ 2 ครั้งรวม 83,933 ชิ้น ในการขนส่งมายังประเทศไทย ผู้ขายได้ว่าจ้างบริษัทฟราต้าชิปปิ้ง พีทีอี จำกัด ให้เป็นผู้ทำการขนส่งสินค้าดังกล่าวมาทางทะเล โดยเรือชื่อ “เนปจูน โทปาส” ห้างหุ้นส่วนจำกัดสตาร์อีเล็คโทรนิคส์ได้เอาประกันภัยสินค้าสำหรับความเสียหายที่จะเกิดขึ้นแก่สินค้าในระหว่างการขนส่งทางทะเลในวงเงินไม่เกิน5,327 เหรียญสหรัฐ บริษัทฟราต้าชิปปิ้ง พีทีอี จำกัด ผู้ขนส่งทอดแรกไม่มีสำนักงานสาขาในประเทศไทย จึงมอบหมายให้จำเลยเป็นผู้ขนส่งอีกทอดหนึ่ง ต่อมาวันที่ 28 มกราคม 2524 เรือ”เนปจูน โทปาส” ได้เข้าเทียบท่าของการท่าเรือแห่งประเทศไทยปรากฏว่าสินค้ารายนี้สูญหายไปทั้งหมดเป็นเงิน 5,327 เหรียญสหรัฐเทียบเท่าเงินไทย 122,521 บาท ห้างหุ้นส่วนจำกัดสตาร์อีเล็คโทรนิคส์ได้เรียกร้องค่าเสียหายจากจำเลย แต่จำเลยเพิกเฉย จึงเรียกร้องค่าเสียหายจากโจทก์ตามสัญญาประกันภัย โจทก์ชำระค่าเสียหายดังกล่าวแล้ว จึงเป็นผู้รับช่วงสิทธิในอันที่จะเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากบริษัทฟราต้าชิปปิ้ง พีทีอี จำกัดและจำเลยโจทก์ทวงถามแล้ว จำเลยเพิกเฉย ขอให้บังคับจำเลยชำระเงินแก่โจทก์ 122,521 บาทกับดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยให้การว่า บริษัทฟราต้าชิปปิ้ง พีทีอี จำกัด ผู้ขนส่งได้ว่าจ้างเรือ “เนปจูน โทปาส” ของบริษัทเนปจูน โอเรียนต์ ไลน์จำกัด ขนส่งสินค้ารายนี้จากท่าเรือเมืองสิงคโปร์มายังท่าเรือกรุงเทพมหานคร อันเป็นการขนส่งทอดเดียว มิใช่ขนส่งหลายทอดบริษัทฟราต้าชิปปิ้ง พีทีอี จำกัด ไม่ได้มอบหมายให้จำเลยเป็นผู้ขนส่งอีกทอดหนึ่ง การขนสินค้าจากเรือที่ท่าเรือกรุงเทพมหานครเป็นของบริษัทหนึ่งซึ่งเป็นตัวแทนของบริษัทเนปจูน โอเรียนต์ ไลน์จำกัด เมื่อเรือมาถึงท่าเรือกรุงเทพฯ ปรากฏว่าตู้คอนเทนเนอร์ซึ่งบรรจุสินค้าอยู่ในสภาพปิดผนึกประทับตราเรียบร้อย สินค้าอื่นที่บรรจุในตู้ก็มีอยู่ครบถ้วน เว้นแต่สินค้ารายพิพาท เนื่องจากเจ้าของสินค้ามิได้บรรจุสินค้ารายพิพาทลงในตู้คอนเทนเนอร์บริษัทฟราต้าชิปปิ้ง พีทีอี จำกัด เป็นผู้ออกใบตราส่งโดยจดแจ้งรายการสินค้ารายพิพาทในใบตราส่งตามคำแจ้งของผู้ส่งสินค้าว่าได้บรรจุสินค้าลงในตู้แล้ว จำเลยไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวจำเลยเป็นเพียงตัวแทนของบริษัทฟราต้าชิปปิ้ง พีทีอี จำกัดในการติดต่อธนาคารที่เกี่ยวข้อง การท่าเรือแห่งประเทศไทย กรมศุลกากรและผู้รับตราส่งเท่านั้น ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินแก่โจทก์ 122,521 บาทกับดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ และให้จำเลยชำระค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ4,000 บาท
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์ ให้โจทก์ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสองศาลแทนจำเลย โดยกำหนดค่าทนายความ 7,000 บาท
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “…พิเคราะห์ตามฎีกาของโจทก์ในประเด็นแรกว่า จำเลยเป็นผู้รับขนสินค้าพิพาททอดหลังที่สุดหรือไม่ ข้อเท็จจริงที่โจทก์จำเลยนำสืบตรงกันรับฟังได้ว่า บริษัทฟราต้าชิปปิ้ง พีทีอีจำกัด เป็นผู้ขนส่งสินค้ารายพิพาทโดยเรือ เนปจูน โทปาส จากประเทศสิงคโปร์มายังประเทศไทย เมื่อเรือเนปจูน โทปาส มาถึงประเทศไทยบริษัทพาราชิปปิ้ง เอเยนซี่ส์ จำกัด เป็นผู้ร้องขอนำเรือเข้าท่าเรือตามเอกสารหมาย ล.3 ห้างหุ้นส่วนจำกัดนาวาเซอร์วิสเป็นผู้ขนสินค้าจากเรือเนปจูน โทปาส ลงมาไว้ที่โรงพักสินค้าตามเอกสารหมาย ล.4 บริษัทพาราชิปปิ้ง เอเยนซี่ส์ จำกัด เป็นผู้ขออนุญาตเปิดตู้คอนเทนเนอร์ ตามเอกสารหมาย ล.4 ซึ่งปรากฏว่าสินค้าของห้างหุ้นส่วนจำกัดสตาร์อีเล็คโทรนิคส์ไม่มีอยู่ในตู้คอนเทนเนอร์ดังกล่าว ปรากฏตามเอกสารหมาย ล.6 ศาลฎีกาเห็นว่า ตามข้อเท็จจริงดังกล่าว จำเลยมิได้เข้าร่วมทำการขนส่งหรือขนถ่ายสินค้าแต่ประการใดเพราะการขนส่งได้กระทำโดยเรือเนปจูน โทปาส เพียงทอดเดียวจากประเทศสิงคโปร์มายังประเทศไทย จำเลยจึงมิได้เป็นผู้ขนส่งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ลักษณะ 8 รับขน อันเป็นบทกฎหมายใกล้เคียงกับการรับขนทางทะเล ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 609แม้ว่าจำเลยจะเป็นผู้แจ้งการมาถึงของสินค้าให้ผู้รับตราส่งทราบให้ผู้รับตราส่งนำใบตราส่งมามอบเพื่อรับใบเบิกสินค้าจากจำเลยและการกระทำของจำเลยจะได้ค่าตอบแทนจากบริษัทผู้ขนส่งก็ตาม แต่การกระทำของจำเลยดังกล่าว เป็นเพียงผู้รับจ้างหรือตัวแทนของบริษัทผู้ขนส่งในการติดต่อกับท่าเรือ เจ้าหน้าที่และผู้รับตราส่งเท่านั้นไม่ได้มีลักษณะเป็นผู้ขนส่งหลายคนหลายทอดตามความในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 618 จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดในการที่สินค้าสูญหายหรือบุบสลายหรือส่งชักช้า ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยปัญหานี้ชอบแล้ว เมื่อฟังว่าจำเลยมิได้เป็นผู้ขนส่งทอดหลังที่สุดไม่ต้องรับผิดตามฟ้องโจทก์แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยปัญหาตามฎีกาข้ออื่น ๆ อีก ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน ให้โจทก์ใช้ค่าทนายความในชั้นฎีกาแทนจำเลย 1,000บาท