คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4250/2531

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยเบียดบังเงินของสุขาภิบาลรวม 9 ครั้งรวมเป็นเงิน 90,000 บาทเศษ ทางพิจารณากลับปรากฏว่า นอกจากเงินของสุขาภิบาลจะขาดบัญชีไป 9 รายการตามฟ้องโจทก์แล้ว ยังมีเงินเกินบัญชีอีก 24 รายการเป็นจำนวนเงิน 70,000 บาทเศษ คงเหลือเงินที่ขาดบัญชีไปเพียง 24,843.97 บาท เท่านั้น โจทก์มิได้นำสืบให้เห็นอย่างชัดแจ้งว่าจำนวนเงินที่ขาดบัญชีนี้จำเลยได้เบียดบังไปจากสุขาภิบาลตามฟ้องโจทก์ข้อใด เป็นจำนวนเท่าใด จึงยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยได้กระทำความผิดทุกกรรมตามฟ้องโจทก์ คงลงโทษจำเลยได้เพียงกระทงเดียว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเป็นเจ้าพนักงานตำแหน่งเสมียนตราอำเภออำเภอตากฟ้า จังหวัดนครสวรรค์ ได้รับคำสั่งแต่งตั้งให้ทำหน้าที่สมุห์บัญชีสุขาภิบาลตากฟ้า จำเลยได้กระทำผิดต่อกฎหมายหลายกรรมโดยเบียดบังเงินของสุขาภิบาลตากฟ้าเป็นของตนหรือของผู้อื่นโดยทุจริต อันเป็นการปฏิบัติและละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ รวม 9 ครั้ง ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147,151, 157, 91 จำเลยให้การปฏิเสธ ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147, 91 รวม 8 กระทง ให้จำคุกกระทงละ 5 ปี รวมจำคุก 40 ปี ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุกจำเลย 26 ปี 8 เดือน คำขออื่นให้ยก จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์ โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยมิได้ปฏิบัติตามระเบียบของทางราชการ โดยมีเจตนาเบียดบังเงินของสุขาภิบาลตากฟ้าเป็นของตนโดยเจตนาทุจริต แล้ววินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่า “คดีนี้โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยเบียดบังเงินของสุขาภิบาลตากฟ้ารวม 9 ครั้งตามฟ้องข้อ (ก) ถึง (ฌ) รวมเป็นเงิน 90,000 บาทเศษทางพิจารณากลับปรากฏว่า นอกจากเงินของสุขาภิบาลตากฟ้าจะขาดบัญชีไป 9 รายการตามฟ้องโจทก์แล้ว ยังมีเงินที่เกินบัญชีอีก24 รายการเป็นจำนวนเงิน 70,000 บาทเศษ คงเหลือเงินที่ขาดบัญชีไปเพียง 24,843.97 บาทเท่านั้น โจทก์มิได้นำสืบให้เห็นอย่างชัดแจ้งว่าจำนวนเงินที่ขาดบัญชีนี้ จำเลยได้เบียดบังไปจากสุขาภิบาลตากฟ้าโจทก์ข้อใด เป็นจำนวนเงินเท่าใด จึงยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยได้กระทำความผิดทุกกรรมตามฟ้องโจทก์ ข้อเท็จจริงคงฟังได้แต่เพียงว่าในระหว่างวันเวลาตามฟ้อง จำเลยได้เบียดบังเงินจำนวน24,843.97 บาทของสุขาภิบาลตากฟ้าเป็นของตนโดยทุจริต และลงโทษจำเลยได้เพียงกระทงเดียวเท่านั้น”
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา147 ที่แก้ไขแล้ว ให้จำคุก 5 ปี คำให้การของจำเลยต่อพนักงานตรวจเงินแผ่นดิน และทางนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78คงจำคุก 3 ปี 4 เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share