แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ศาลอุทธรณ์กำหนดโทษที่ลงหลังจากลดโทษแล้ว จำคุก 2 ปี 3 เดือนกรณีจึงไม่อาจรอการลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335, 357ให้คืนทรัพย์ของกลางแก่ผู้เสียหาย และนับโทษจำเลยคดีนี้ต่อจากโทษในคดีอาญาหมายเลขดังกล่าว
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 335(1), (3) วรรคสาม จำคุก 5 ปี ให้คืนทรัพย์ของกลางแก่ผู้เสียหายและให้นับโทษต่อจากคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 10358/2540 ของศาลชั้นต้น
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลงโทษจำคุกจำเลย 3 ปี ปรับ 8,000 บาทจำเลยให้การรับสารภาพชั้นจับกุมเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา คดีมีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 หนึ่งในสี่ คงจำคุกจำเลย 2 ปี 3 เดือน ปรับ 6,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี ให้คุมความประพฤติจำเลยไว้ 1 ปี โดยให้ไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติทุก 4 เดือนต่อครั้งจนครบระยะเวลาที่คุมความประพฤติ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ไม่ชำระค่าปรับจัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 คำขอให้นับโทษต่อให้ยกนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกาขอให้ไม่รอการลงโทษ
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่าไม่สมควรรอการลงโทษและโทษที่กำหนดไว้นั้นรอการลงโทษไม่ได้หรือไม่ เห็นว่าศาลอุทธรณ์กำหนดโทษที่ลงหลังจากลดโทษแล้ว จำคุก 2 ปี 3 เดือน แต่ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 56 โทษจำคุกที่รอการลงโทษได้นั้นต้องมีกำหนดไม่เกินสองปีกำหนดโทษที่ศาลอุทธรณ์ลงมานั้นจึงไม่อาจรอการลงโทษได้
พิพากษาแก้เป็นว่า ไม่รอการลงโทษ ไม่ปรับ และไม่คุมความประพฤตินอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์