แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์บรรยายฟ้องว่า ความตายของผู้ตายทำให้โจทก์ผู้เป็นสามีของผู้ตายต้องขาดรายได้จากผู้ตายเท่ากับเงินเดือนที่ผู้ตายได้รับจากการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทยเป็นรายเดือนเดือนละ 8,960 บาท หรือปีละ107,520 บาท เป็นเวลา 14 ปี รวมเป็นเงิน 1,505,280 บาทเป็นการบรรยายฟ้องถึงเรื่องค่าขาดไร้อุปการะนั่นเองศาลพิพากษาให้โจทก์ได้รับค่าขาดไร้อุปการะได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างหรือตัวแทนผู้มีผลประโยชน์ร่วมกับจำเลยที่ 2 ได้ขับรถยนต์โดยสารของจำเลยที่ 2 ไปตามถนนวิภาวดีรังสิตขาเข้าโดยกระทำในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 2 เมื่อจะไปถึงบริเวณหน้าท่าอากาศยานกรุงเทพ จำเลยที่ 1 ได้ขับรถยนต์โดยสารคันเกิดเหตุถอยหลังกลับด้วยความเร็วสูงมากและประมาทเป็นเหตุให้ชนนางนิดภริยาของโจทก์ถึงแก่ความตาย ขณะถึงแก่ความตายนางนิดอายุ 46 ปี เป็นพนักงานรักษาความสะอาด2 ประจำอยู่ที่แผนกอำนวยความสะดวก กองควบคุม ฝ่ายการท่าอากาศยาน ท่าอากาศยานกรุงเทพได้รับเงินเดือนเดือนละ8,960 บาท ซึ่งมีโอกาสทำงานต่อไปได้อีก 14 ปี ขาดรายได้ปีละ 107,520 บาท เป็นเวลา 14 ปี เป็นเงิน1,505,280 บาท โจทก์เสียค่าใช้จ่ายในการปลงศพเป็นเงิน50,000 บาท จำเลยที่ 2 ในฐานะนายจ้างหรือตัวการมีผลประโยชน์ร่วมกับจำเลยที่ 1 ส่วนจำเลยที่ 3 ในฐานะผู้ให้เช่าซื้อถือกรรมสิทธิ์ และครอบครองรถยนต์โดยสารคันที่จำเลยที่ 1 ขับ มีผลประโยชน์ร่วมกับจำเลยที่ 1 สำหรับจำเลยที่ 4 ในฐานะผู้จดทะเบียนประกอบการขนส่งประเภทรถยนต์โดยสารประจำทางมีสิทธิครอบครองและใช้รถยนต์โดยสารคันเกิดเหตุเข้าร่วมกิจการของจำเลยที่ 2และที่ 3 และมีผลประโยชน์ร่วมกับจำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 3ต้องร่วมกันกับจำเลยที่ 1 รับผิดต่อโจทก์ ขอให้บังคับจำเลยทั้งสี่ร่วมกันหรือแทนกันชำระเงินจำนวน 1,555,280 บาทแก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ย
จำเลยที่ 1 ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา
จำเลยที่ 2 ให้การว่า แม้โจทก์ขาดไร้อุปการะ แต่นางนิดย่อมมีค่าใช้จ่ายส่วนตัวเดือนละไม่น้อยกว่า 3,000 บาท ค่าขาดไร้อุปการะไม่เกินเดือนละ 1,000 บาท เป็นเวลา 14 ปีคิดเป็นเงินเพียง 168,000 บาท ค่าปลงศพไม่เกิน 15,000 บาทขอให้ยกฟ้อง
จำเลยที่ 3 ให้การว่า โจทก์ขาดรายได้ไม่เกิน 5 ปีเป็นเงิน 50,000 บาท ค่าปลงศพไม่เกิน 20,000 บาท ขอให้ยกฟ้อง โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกค่าขาดรายได้และค่าขาดไร้อุปการะ ค่าปลงศพผู้ตายไม่เกิน 20,000 บาท ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 4 ร่วมกันหรือแทนกันชำระเงินจำนวน 553,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2533 จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ ให้ยกฟ้องจำเลยที่ 3
จำเลยที่ 2 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 2 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ในประเด็นเรื่องค่าสินไหมทดแทนที่จำเลยที่ 2 ฎีกาว่า โจทก์ไม่ได้ฟ้องเรียกค่าขาดไร้อุปการะมาจึงไม่ชอบที่ศาลล่างทั้งสองจะพิพากษาให้โจทก์ได้รับค่าขาดไร้อุปการะเพราะเป็นเรื่องนอกฟ้องนอกประเด็นนั้น เห็นว่า โจทก์บรรยายฟ้องมาแล้วว่าความตายของผู้ตายทำให้โจทก์ผู้เป็นสามีของผู้ตายต้องขาดรายได้จากผู้ตายเท่ากับเงินเดือนที่ผู้ตายได้รับจากการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทยเป็นรายเดือนเดือนละ 8,960 บาท หรือปีละ 107,520 บาท เป็นเวลา 14 ปี รวมเป็นเงินจำนวน 1,505,280 บาท ซึ่งเป็นการบรรยายฟ้องถึงเรื่องค่าขาดไร้อุปการะนั่นเอง ศาลล่างทั้งสองจึงชอบที่จะพิพากษาให้โจทก์ได้รับค่าขาดไร้อุปการะได้ หาใช่เป็นการพิพากษานอกคำฟ้องหรือนอกประเด็นดังที่จำเลยที่ 2 ฎีกาไม่
พิพากษายืน