แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ในคดีที่โจทก์หาว่าจำเลยกระทำผิดฐานรับของโจร เป็นหน้าที่ของโจทก์จะต้องนำสืบความผิดของจำลเยว่า จำลเยได้รับทรัพย์นั้นไว้โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นการที่ได้มาโดยกระทำความผิดกฎหมายหาใช่เป็นหน้าที่ของจำเลยต้องจนำสืบไม่ (อ้างฎีกา 577/2484)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองสมคบกันลักหรือรับผ้าของกลางไว้โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นของทีได้มาจากการกระทำผิดกฎหมาย จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นเห็นว่า ข้อหาฐานลักทรัพย์โจทก์ไม่มีพยานส่วนข้อหาฐานรับของโจทก์ฟังว่าจำเลยทั้ง ๒ ได้รับผ้าของกลางไว้ แต่จำเลยที่ ๑ ผู้เดียวรับไว้โดยรู้อยู่ว่าเป็นของร้ายให้จำคุกจำเลยที่ ๑หนึ่งปีตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๓๒๑ ส่วนจำเลยที่ ๒ ให้ยกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า พยานโจทก์ยังไม่พอฟังลงโทษจำเลยพิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง ปล่อยจำเลยที่ ๑
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์ไม่มีพยานที่จะแสดงเลยว่า จำเลยที่ ๑ ได้รับผ้าของกลางรายนี้ไว้จากใครอย่างไร และรู้ว่าเป็นของที่ได้มาจากการกระทำผิดกฎหมายหรือไม่ ในคดีที่โจทก์หาว่า จำเลยกระทำผิดฐานรับของโจทก์ตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๓๒๑ เป็นหน้าที่ของโจทก์จะต้องนำสืบความผิดของจำเลยว่า จำเลยได้รับทรัพย์นั้นไว้โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นของที่ได้ว่าโดยการกระทำผิดกฎหมาย หาใช่เป็นหน้าที่ของจำเลยจะต้องนำสืบไม่ เห็นพ้องด้วยศาลอุทธรณ์
พิพากษายืน