แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การที่โจทก์ฟ้องจำเลยหาว่า ทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัสไม่สามารถทำมาหาเลี้ยงชีพได้ตามปกติเกินกว่า 20 วัน.โดยโจทก์ยื่นฟ้องเสียก่อนครบ20 วันนับจากวันเกิดเหตุ ดังนี้ ต้องฟังข้อเท็จจริงตามที่โจทก์นำสืบก่อนว่าจะถึงสาหัสจริงตามฟ้องหรือไม่ ศาลจะงดสืบพยานโจทก์และลงโทษจำเลยเพียงฐานทำร้ายร่างกายบาดเจ็บไม่ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2492 จำเลยใช้มีดดาบทำร้ายร่างกาย น. มีบาดแผลสาหัส ไม่สามารถทำมาหาเลี้ยงชีพได้ตามปกติเกินกว่า 20 วัน ขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 256 โจทก์ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2492 จำเลยให้การรับว่าได้ทำร้าย น. จริง แต่จะถึงสาหัสหรือไม่ ไม่ทราบ
ศาลชั้นต้นงดสืบพยาน วินิจฉัยว่า นับจากวันเกิดเหตุถึงวันฟ้องยังไม่ถึง 20 วันโจทก์บรรยายข้อเท็จจริงในสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นศาลหารับฟังไม่ ในข้อเท็จจริงที่บรรยายในฟ้องต้องเกิดขึ้นแน่นอนแล้วจะคาดคะเนหรือสันนิษฐานเอาไม่ได้ลงโทษตามมาตรา 256 ไม่ได้ ให้ลงโทษตามมาตรา 254
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า โจทก์ได้กล่าวข้อเท็จจริงเกี่ยวแก่บาดแผลในฟ้องไว้แล้ว หากจะสาหัสหรือไม่ โจทก์สามารถสืบได้ตามฟ้องหรือไม่ต้องพิจารณากันภายหลัง พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นสืบพยานแล้วพิพากษาใหม่
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า เหตุเพียงที่โจทก์ยื่นฟ้องคดีนี้จากวันเกิดเหตุถึงวันยื่นฟ้องยังไม่ถึง 20 วัน ยังไม่พอจะชี้ขาดข้อเท็จจริงได้ว่าผู้บาดเจ็บจะสามารถทำมาหาเลี้ยงชีพตามปกติเกินกว่า 20 วันหรือไม่จึงต้องฟังข้อเท็จจริงก่อน
พิพากษายืน