แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
กรมธรรม์ประกันภัยระบุเงื่อนไขว่าจำเลยจะใช้ค่าสินไหมทดแทนในนามของผู้เอาประกันซึ่งผู้เอาประกันภัยจะต้องรับผิดชอบตามกฎหมายเพื่อความเสียหายต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอกเนื่องจากอุบัติเหตุอันเกิดจากการใช้รถยนต์ในระหว่างระยะเวลาประกันภัยและไม่คุ้มครอบความเสียหายต่อทรัพย์สินที่ผู้เอาประกันภัยหรือบุคคลในครอบครัวซึ่งอยู่ด้วยกันกับผู้เอาประกันภัยเป็นเจ้าของหรือเป็นผู้เก็บรักษาควบคุมหรือครอบครองทรัพย์สินนั้นแต่รถยนต์คันเกิดเหตุที่จำเลยรับประกันภัยค้ำจุนไว้จากจำเลยร่วมเป็นของจำเลยร่วมแม้ว่าโจทก์เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของจำเลยร่วมแต่จำเลยร่วมจดทะเบียนเป็นห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคลย่อมเป็นนิติบุคคลต่างหากจากผู้เป็นหุ้นส่วนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1015ดังนั้นจะถือว่าโจทก์เป็นผู้เอาประกันภัยด้วยหาได้ไม่ทั้งรถยนต์คันที่ได้รับความเสียหายเป็นของโจทก์มิใช่เป็นทรัพย์สินของจำเลยร่วมผู้เอาประกันภัยหรือของบุคคลดังกล่าวกรณีจึงไม่อยู่ในเงื่อนไขเข้าข้อยกเว้นดังกล่าวที่จำเลยจะปฏิเสธความรับผิดต่อโจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกและเป็นเจ้าของรถยนต์คันที่จำเลยรับประกันภัยค้ำจุนชนได้รับความเสียหาย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของผู้ครอบครองรถยนต์บรรทุกหมายเลขทะเบียน 70-4967 จำเลยเป็นผู้รับประกันภัยรถยนต์หมายเลขทะเบียน80-0819 จากห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล ส.นิยมทรานสปอร์ต เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2535 นายน้อย ขันอาสา ลูกจ้างห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล ส.นิยมทรานสปอร์ต ได้ขับรถยนต์หมายเลขทะเบียน 80-0819 ไปในทางการที่จ้างของห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคลส.นิยมทรานสปอร์ต ด้วยความประมาทเลินเล่อ ชนท้ายรถยนต์บรรทุกหมายเลขทะเบียน 70-4967 กรุงเทพมหานครได้รับความเสียหายต้องซ่อมและเปลี่ยนอะไหล่เป็นเงิน 61,900 บาทขอให้บังคับจำเลยชดใช้เงิน 61,900 บาท ขอให้บังคับจำเลยชดใช้เงิน 61,900 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า จำเลยได้รับประกันภัยค้ำจุนรถยนต์หมายเลขทะเบียน 80-0819 โจทก์เป็นเจ้าของผู้ครอบครองรถยนต์บรรทุกหมายเลขทะเบียน 70-4967 และในขณะเดียวกันโจทก์เป็นเจ้าของหรือผู้ครอบครองหรือควบคุมดูแลรถยนต์หมายเลขทะเบียน 80-0819 จำเลยจึงขอปฏิเสธความรับผิดต่อโจทก์ตามสัญญาประกันภัยที่เป็นเงื่อนไขในกรมธรรม์ประกันภัยไม่คุ้มครองความเสียหายต่อทรัพย์สินที่่ผู้เอาประกันภัยหรือบุคคลในครอบครัวซึ่งอยู่ด้วยกันกับผู้เอาประกันภัยเป็นเจ้าของหรือเป็นผู้เก็บรักษา ควบคุม ครอบครองทรัพย์สินนั้น จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ ขอให้ยกฟ้อง
ระหว่างพิจารณา จำเลยขอให้ศาลชั้นต้นหมายเรียกห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล ส. นิยมทรานสปอร์ต เข้ามาเป็นจำเลยร่วม ศาลชั้นต้นอนุญาต
จำเลยร่วมให้การว่า รถยนต์บรรทุกหมายเลขทะเบียน 70-4967ไม่ใช่รถของจำเลยร่วม แต่เป็นของโจทก์ในฐานะส่วนตัว ซึ่งใช้ร่วมขนส่งในกิจการของห้างหุ้นส่วนจำกัด ณรงค์วิทย์ขนส่ง จำเลยจะอ้างให้พ้นความรับผิดตามกรมธรรม์ประกันภัยไม่ได้ ขอให้ยกฟ้องจำเลยร่วม
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 45,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันฟ้องไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ให้ยกฟ้องจำเลยร่วม
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปัญหาวินิจฉัยข้อกฎหมายตามฎีกาของจำเลยมีว่า จำเลยจะปฏิเสธความรับผิดต่อโจทก์ตามเงื่อนไขในกรมธรรม์ประกันภัยเอกสารหมาย ล.3 ข้อ 2.12.1 ได้หรือไม่ เห็นว่า ตามกรมธรรม์ประกันภัยเอกสารหมาย ล.3 หมวดที่ 2 ว่าด้วยการคุ้มครองความรับผิดต่อบุคคลภายนอกในข้อ 2.3 เรื่องความรับผิดต่อทรัพย์สิน กำหนดว่า(จำเลย) จะใช้ค่่่าสินไหมทดแทนในนามของผู้เอาประกันภัยซึ่งผู้เอาประกันภัยซึ่งผู้เอาประกันภัยจะต้องรับผิดชอบตามกฎหมาย เพื่อความเสียหายต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก เนื่องจากอุบัติเหตุอันเกิดจากการใช้รถยนต์ในระหว่างระยะเวลาประกันภัย และข้อ 2.12 เรื่องการยกเว้นทรัพย์สิน กำหนดว่า การประกันภัยตามข้อ 2.3 ไม่คุ้มครองความเสียหายต่อ 2.12.1 ทรัพย์สินที่ผู้เอาประกันภัยหรือบุคคลในครอบครัวซึ่งอยู่ด้วยกันกับผู้เอาประกันภัยเป็นเจ้าของหรือเป็นผู้เก็บรักษา ควบคุมหรือครอบครองทรัพย์สินนั้น แต่รถยนต์หมายเลขทะเบียน 80-0819 พระนครศรีอยุธยา เป็นรถยนต์ที่จำเลยรับประกันภัยค้ำจุนไว้จากจำเลยร่วม แม้ว่าโจทก์เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของจำเลยร่วม แต่จำเลยร่วม จดทะเบียนเป็นห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคลย่่อมเป็นนิติบุคคลต่างหากจากผู้เป็นหุ้นส่วนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1015 ดังนั้น รถยนต์หมายเลขทะเบียน 80-0819 พระนครศรีอยุธยา ที่จำเลยร่วมเป็นผู้เอาประกันที่จำเลยร่วมเป็นผู้เอาประกันจะถือว่าโจทก์เป็นผู้เอาประกันด้วยหาได้ไม่ ส่วนคำว่า ทรัพย์สินในข้อ 2.12 และ 2.12.1 หมายถึงทรัพย์สินที่เกิดความเสียหายเป็นของผู้เอาประกันภัย หรือของบุคคลในครอบครัวซึ่งอยู่ด้วยกันกับผู้เอาประกันภัยหรือบุคคลดังกล่าวเก็บรักษา ควบคุมครอบครองทรัพย์สินนั้น แต่รถยนต์หมายเลขทะเบียน70-4967 กรุงเทพมหานคร ที่ได้รับความเสียหายเป็นของโจทก์มิใช่เป็นทรัพย์สินของจำเลยร่วมผู้เอาประกันภัย หรือของบุคคลดังกล่าวตามข้อ 2.12 และ 2.12.1 กรณีจึงไม่อยู่ในเงื่อนไขเข้าข้อยกเว้นดังกล่าวที่จำเลยจะปฏิเสธความรับผิดชอบโจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอก และเป็นเจ้าของรถยนต์บรรทุกที่คนขับรถยนต์หมายเลขทะเบียน80-0819 พระนครศรีอยุธยา ที่่จำเลยรับประกันภัยค้ำจุนชนได้รับความเสียหายการที่ศาลล่างทั้งสองฟังว่าจำเลยร่่วมต้องรับผิดต่อโจทก์ แม้มิได้พิพากษาให้จำเลยร่วมใช้ค่าเสียหายร่วมกับจำเลยแต่จำเลยต้องรับผิดต่อโจทก์ในนามของจำเลยร่วมผู้เอาประกันภัยเพื่อความวินาศภัยอันเกิดขึ้นแก่โจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอก ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 887 วรรคแรก
พิพากษายืน