คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 706/2498

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อคู่ความตกลงท้ากันเป็นข้อแพ้ชนะในข้อที่ว่าเมื่อตรวจสอบเขตที่ดินแล้ว ถ้าที่ดินพิพาทตกอยู่ในเขตโฉนดของฝ่ายใด อีกฝ่ายหนึ่งยอมยกให้แก่ฝ่ายนั้น เช่นนี้ศาลต้องวินิจฉัยไปตามประเด็นที่ท้ากันเท่านั้น แต่ถ้าการตรวจสอบเขตที่ดินยังไม่พอจะให้ชี้ขาดไปตามที่คู่ความท้ากันแล้วศาลจะต้องดำเนินการพิจารณาพิพากษาไปตาม ประเด็นในคดี

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยรื้อเรือนโรงออกจากที่ดินริมคลองของโจทก์เนื้อที่ราว ๕ ตารางวา จำเลยต่อสู้เถียงกรรมสิทธิและฟ้องแย้ง วันชี้สองสถานคู่ความท้าประเด็นกันว่าถ้าที่ดินที่โจทก์ฟ้องหรือบางส่วนอยู่ในเขตโฉนดของโจทก์จำเลยยอมยกให้โจทก์และรื้อถอนบ้านเรือนไป ถ้าหากที่ดินอยู่ในเขตโฉนดของจำเลยโจทก์ยอมแพ้ยกให้จำเลย ขอให้เจ้าหน้าที่หอทะเบียนที่ดินไปตรวจสอบว่าที่พิพาทอยู่ในเขตโฉนดของผู้ใด ให้ศาลชี้ขาดไปตามนั้นโดยคู่ความไม่สืบพยาน.เจ้าพนักงานที่ดินส่งแผนที่พิพาทซึ่งมีเรือนจำเลยปรากฎมาศาลแจ้งว่าแผนที่หลังโฉนดเป็นอย่างเก่า ไม่มีหลักฐานอาศัยโยงยึดทำการรังวัด ไม่ทราบว่ารุกล้ำกันแค่ไหน คู่ความแถลงว่าไม่มีทางตกลงกัน โจทก์ขอให้สืบพยานต่อไป เพราะการรังวัดไม่ได้สมดังคำห้า จำเลยว่าสมแล้วขอให้ศาลวินิจฉัย ถ้าสงสัยให้เรียกเจ้าพนักงานแผนที่มาสอบ และศาลได้สอบช่างแผนที่เป็นพยานประกอบแล้ว
ศาลชั้นต้นเห็นว่าที่พิพาทอยู่นอกโฉนดของโจทก์ แต่อยู่ในเขตโฉนดของจำเลยสมคำท้าของจำเลยให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์ว่าที่ศาลชั้นต้นไม่ให้โจทก์สืบพยานไม่ชอบเพราะคดีไม่ได้ความตามคำท้า
ศาลอุทธรณ์เห็นว่ารูปคดียังได้ความไม่สมคำท้าของโจทก์จำเลย เพราะที่พิพาทไม่ได้อยู่ในเขตโฉนดโจทก์และก็ไม่แน่ว่าจะอยู่ในเขตโฉนดจำเลยหรือไม่ คำท้ากล่าวแต่ว่าที่อยู่ในโฉนดใครอีกฝ่ายหนึ่งยอมยกให้ ไม่ได้กล่าวว่าถ้าไม่ได้อยู่ในฝ่ายใดฝ่ายนั้นยอมแพ้ เมื่อยังชี้ขาดตามคำท้าไม่ได้และตามฟ้องยังมีประเด็นอื่นที่จะต้องพิจารณาอยู่ จึงพิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ดำเนินการสืบพยานพิพากษาใหม่
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าคดีนี้เป็นเรื่องที่คู่ความท้ากันเป็นข้อแพ้ชนะในข้อที่ว่า เมื่อตรวจสอบเขตที่ดินแล้ว ถ้าที่ดินที่โจทก์ฟ้องหรือบางส่วนอยู่ในเขตโฉนดของฝ่ายใด อีกฝ่ายหนึ่งยอมยกให้แก่ฝ่ายนั้น เมื่อเช่นนี้แล้ว ศาลก็ต้องวินิจฉัยไปเฉพาะประเด็นตามที่คู่ความท้ากัน ประเด็นอื่นไม่ต้องวินิจฉัย แต่ถ้าหากการตรวจสอบเขตที่ดินทราบไม่ได้แน่นอนพอจะชี้ขาดได้ตามคำท้าข้อที่ท้ากันย่อมตกไป ศาลจะต้องดำเนินการพิจารณาพิพากษาตามตามประเด็นในคดีต่อไป เมื่อผลของการตรวจสอบเขตที่ดินทราบไม่ได้แน่นอนเช่นนี้ แม้ที่พิพาทจะไม่ได้อยู่ในเขตโฉนดของโจทก์ แต่ก็อาจจะไม่อยู่ในเขตโฉนดของจำเลยดุจกัน จึงยังไม่พอจะชี้ขาดไปตามที่คู่ความท้ากันได้ดังที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัย คดีจึงต้องดำเนินการพิจารณาและพิพากษาต่อไปตามรูปคดี
จึงพิพากษายืน

Share