แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เมื่อได้มีพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งเทศบาลเมืองวารินชำราบจังหวัดอุบลราชธานีพ.ศ.2538เปลี่ยนแปลงฐานะเทศบาลตำบลวารินชำราบเป็นเทศบาลเมืองวารินชำราบประกาศใช้ซึ่งมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่25กันยายน2538ดังนั้นตั้งแต่วันที่25กันยายน2538เป็นต้นไปเทศบาลตำบลวารินชำราบ จึงเป็นอันพ้นจากสภาพแห่งเทศบาลเดิมตามพระราชบัญญัติเทศบาลพ.ศ.2496มาตรา13วรรคสองการที่ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีได้ประกาศให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลตำบลวารินชำราบ กำหนดวันรับสมัครตั้งแต่วันที่25กันยายน2538จึงเป็นอันสิ้นผลไปในตัวเมื่อโจทก์ทั้งสองสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลตำบลวารินชำราบ ในวันที่25กันยายน2538ตามประกาศของผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีแต่สภาเทศบาลตำบลวารินชำราบพ้นสภาพไปในวันนั้นแล้วการสมัครของโจทก์ทั้งสองเป็นอันสิ้นผลไปด้วยไม่มีทางที่จะทำให้โจทก์ทั้งสองได้เป็นสมาชิกสภาเทศบาลตำบลวารินชำราบไปได้ไม่ว่าจะมีกฎหมายบัญญัติให้อำนาจจำเลยทั้งสามที่จะวินิจฉัยสั่งการยกเลิกหรือถอนการสมัครรับเลือกตั้งของโจทก์ทั้งสองไว้โดยตรงหรือไม่ก็ตามความเสียหายของโจทก์ทั้งสองตามฟ้องก็หาเป็นผลมาจากการวินิจฉัยสั่งการของจำเลยทั้งสามเช่นนั้นไม่การกระทำของจำเลยทั้งสามจึงไม่เป็นการละเมิดต่อโจทก์ทั้งสอง
ย่อยาว
โจทก์ทั้งสองฟ้องว่า เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2538ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลพุทธศักราช 2482 มาตรา 5 และคำสั่งกระทรวงมหาดไทย ประกาศให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลตำบลวารินชำราบ กำหนดวันรับสมัครตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2538ถึงวันที่ 9 ตุลาคม 2538 และเลือกตั้งในวันที่ 12 พฤศจิกายน 2538 ในวันที่ 25 กันยายน 2538 โจทก์ทั้งสองได้ไปยื่นใบสมัครรับเลือกตั้งต่อจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นนายกเทศมนตรีและรักษาการนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลวารินชำราบ และจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นปลัดเทศบาลตำบลวารินชำราบ ได้หมายเลขประจำตัว 2 และ 5 ตามลำดับต่อมาเดือนตุลาคม 2538 จำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 3 ซึ่งเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีได้ร่วมกันวินิจฉัยและสั่งการว่าการสมัครรับเลือกตั้งของโจทก์ทั้งสองดังกล่าวไม่มีผลตามกฎหมายเนื่องจากเทศบาลตำบลวารินชำราบได้ยกฐานะเป็นเทศบาลเมืองวารินชำราบ ตามพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งเทศบาลเมืองวารินชำราบจังหวัดอุบลราชธานี พ.ศ. 2538 ให้ยกเลิกหรือถอนการสมัครของโจทก์ทั้งสองแล้วจำเลยทั้งสามร่วมกันดำเนินการให้มีการสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาเทศบาลเมืองวารินชำราบใหม่ โดยกำหนดวันรับสมัครวันที่ 2 พฤศจิกายน 2538 ถึงวันที่ 16 พฤศจิกายน 2538 และกำหนดเลือกตั้งในวันที่ 17 ธันวาคม 2538 เนื่องจากวันสุดท้ายของการสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาเทศบาลตำบลวารินชำราบ ตามประกาศการรับสมัครครั้งแรกนั้น มีผู้สมัครเพียงเจ็ดคน ไม่เกินจำนวนสมาชิกสภาเทศบาลตำบลวารินชำราบที่จะมีได้ โจทก์ทั้งสองจึงอยู่ในเกณฑ์ที่จะได้รับเลือกตั้งโดยไม่ต้องลงคะแนน โจทก์ทั้งสองกับผู้สมัครคนอื่นขอให้จำเลยที่ 1 ประกาศผลของการเลือกตั้งในกรณีที่ไม่มีการลงคะแนน แต่จำเลยที่ 1 กลับร่วมกับจำเลยที่ 2 ที่ 3ยกเลิกหรือถอนการสมัครของโจทก์ทั้งสองโดยไม่มีอำนาจโดยชอบด้วยกฎหมาย ไม่มีบทกฎหมายใดให้อำนาจจำเลยทั้งสามสั่งการยกเลิกหรือถอนการสมัครของโจทก์ทั้งสองดังกล่าวได้ การกระทำของจำเลยทั้งสามเป็นการจงใจทำต่อโจทก์ทั้งสองโดยผิดกฎหมาย ทำให้โจทก์ทั้งสองได้รับความเสียหายต้องเสียค่าใช้จ่ายในการหาเสียงเลือกตั้งเพิ่มขึ้นเป็นเงินประมาณ 250,000 บาท โจทก์ทั้งสองอยู่ในฐานะจะได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาเทศบาลตำบลวารินชำราบโดยไม่ต้องลงคะแนน ต้องขาดประโยชน์ที่จะพึงได้รับเดือนละ 3,100 บาท เป็นเวลา 5 ปี ขอให้บังคับจำเลยทั้งสามร่วมกันชำระเงินค่าเสียหายจำนวน250,000 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ทั้งสอง และให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชำระเงินค่าเสียหายเป็นรายเดือนแก่โจทก์ทั้งสองคนละ 3,100 บาทต่อเดือน นับตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคม 2538 ถึงวันที่ 12 ธันวาคม 2523
ศาลชั้นต้น พิพากษายก ฟ้อง
โจทก์ทั้งสองอุทธรณ์เฉพาะปัญหาข้อกฎหมายโดยตรงต่อศาลฎีกาโดยได้รับอนุญาตจากศาลชั้นต้น ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 223 ทวิ
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงตามคำฟ้องของโจทก์ทั้งสองได้ความว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีได้ประกาศให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลตำบลวารินชำราบกำหนดวันรับสมัครตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2538 ถึงวันที่ 9 ตุลาคม 2538 โจทก์ทั้งสองได้ยื่นใบสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาเทศบาลตำบลวารินชำราบเมื่อวันที่ 25 กันยายน 2538 แล้ว ต่อมาเดือนตุลาคม 2538จำเลยทั้งสามได้ร่วมกันวินิจฉัยสั่งการให้ยกเลิกหรือถอนการสมัครรับเลือกตั้งของโจทก์ทั้งสองดังกล่าว เนื่องจากได้มีการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาจัดตั้งเทศบาลเมืองวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานีพ.ศ. 2538 เปลี่ยนแปลงฐานะเทศบาลตำบลวารินชำราบเป็นเทศบาลเมืองวารินชำราบ มีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน2538 แล้วจำเลยทั้งสามได้ร่วมกันดำเนินการให้มีการสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาเทศบาลเมืองวารินชำราบใหม่ มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของโจทก์ทั้งสองว่าการที่จำเลยทั้งสามสั่งให้ยกเลิกหรือถอนการสมัครรับเลือกตั้งของโจทก์ทั้งสองดังกล่าวเป็นการละเมิดต่อโจทก์ทั้งสองหรือไม่ เห็นว่าเมื่อได้มีพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งเทศบาลเมืองวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี พ.ศ. 2538 เปลี่ยนแปลงฐานะเทศบาลตำบลวารินชำราบเป็นเทศบาลเมืองวารินชำราบประกาศใช้ซึ่งมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2538 ดังนั้นตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2538 เป็นต้นไป เทศบาลตำบลวารินชำราบจึงเป็นอันพ้นจากสภาพแห่งเทศบาลเดิม ตามพระราชบัญญัติเทศบาลพ.ศ. 2496 มาตรา 13 วรรคสอง การที่ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีได้ประกาศให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลตำบลวารินชำราบ กำหนดวันรับสมัครตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2538 จึงเป็นอันสิ้นผลไปในตัวเมื่อโจทก์ทั้งสองสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลตำบลวารินชำราบในวันที่ 25 กันยายน 2538 ตามประกาศของผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี แต่สภาเทศบาลตำบลวารินชำราบพ้นสภาพไปในวันนั้นแล้วการสมัครของโจทก์ทั้งสองเป็นอันสิ้นผลไปด้วยไม่มีทางที่จะทำให้โจทก์ทั้งสองได้เป็นสมาชิกสภาเทศบาลตำบลวารินชำราบไปได้ไม่ว่าจะมีกฎหมายบัญญัติให้อำนาจจำเลยทั้งสามที่จะวินิจฉัยสั่งการยกเลิกหรือถอนการสมัครรับเลือกตั้งของโจทก์ทั้งสองไว้โดยตรงหรือไม่ก็ตาม ความเสียหายของโจทก์ทั้งสองตามฟ้องก็หาเป็นผลมาจากการวินิจฉัยสั่งการของจำเลยทั้งสามเช่นนั้นไม่ การกระทำของจำเลยทั้งสามจึงไม่เป็นการละเมิดต่อโจทก์ทั้งสอง
พิพากษายืน