แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ที่ดินซึ่งกรมประชาสงเคราะห์จัดสรรให้จำเลยซึ่งเป็นสมาชิกนิคมสร้างตนเองเข้าทำกินตามพระราชบัญญัติจัดที่ดินเพื่อการครองชีพ พ.ศ.2485 และทางนิคมยังไม่ได้ออกหนังสือสำคัญแสดงกรรมสิทธิ์ให้แก่จำเลยเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน และไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดี
ย่อยาว
คดีนี้ ในชั้นบังคับคดี โจทก์นำยึดที่ดินของจำเลยเพื่อใช้ค่าสินไหมทดแทนฐานละเมิดและประกาศขายทอดตลาดแล้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลาได้แจ้งไปยังศาลว่า ที่ดินตามประกาศยึดทรัพย์ของจำเลยนั้นเป็นของรัฐและไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดี
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วเห็นว่าที่ดินรายนี้เป็นที่ดินหวงห้าม อยู่ในความดูลของกรมประชาสงเคราะห์ มิใช่ทรัพย์ของจำเลยจึงมีคำสั่งให้ปล่อยทรัพย์ที่ยึด
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ที่ดินที่โจทก์นำยึดเป็นที่ดินซึ่งกรมประชาสงเคราะห์จัดสรรให้สมาชิกนิคมสร้างตนเองเข้าทำกินตามพระราชบัญญัติจัดที่ดินเพื่อการครองชีพ พ.ศ.๒๔๘๕ แต่ก็ยังไม่ได้ออกหนังสือสำคัญแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดินให้แก่สมาชิกรายใดเลย จึงเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน เมื่อที่ดินเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน จึงไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรรา ๒๘๕(๒) ที่โจทก์ฎีกาว่าจำเลยไม่ได้โอนจำหน่ายที่ดินนี้ หากแต่โจทก์นำยึดเองจึงไม่ต้องห้าม เห็นว่า ตามพระราชบัญญัติจัดที่ดินเพื่อการครอบชีพ พ.ศ.๒๔๘๕ มาตรา ๙ วรรคสอง ที่ดินจัดสรรซึ่งยังไม่ตกเป็นกรรมสิทธิ์แก่สมาชิกโดยเด็ดขาด ย่อมไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดี โจทก์จะนำยึดเพื่อบังคับคดีชำระหนี้ของจำเลยอันมีอยู่ต่อโจทก์หาได้ไม่
พิพากษายืน ยกฎีกาโจทก์