แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ฟ้องของโจทกล่าวว่า จำเลยขายไม้ขีดไฟกลักละ 3 สตางค์อันเกินราคาสูงสุดซึ่งคนะกัมการไนท้องที่ได้ประกาสไว้ โดยห้ามมิไห้ขายเกินกว่ากลักละ 2 สตางค์ ย่อมเปนข้อความที่ชัดเจนพอที่จำเลยจะเข้าไจข้อหาได้ดีแล้ว ไม่จำเปนต้องกล่าวไนฟ้องว่า ประกาสของคนะกัมการนั้นได้ประกาสเมื่อวันเดือนปีได และจำเลยได้กะทำผิดพายไนกำหนดนั้นหรือไม่
ย่อยาว
โจทฟ้องว่าจำเลยกะทำการค้ากะไรเกินควน โดยขายไม้ขีดกลักละ ๓ สตางค์อันเกินราคาสูงสุดซึ่งคนะกัมการไนท้องที่จังหวัดนี้ได้ประกาสไว้ โดยห้ามมิไห้ขายเกินกว่ากลักละ ๒ สตางค์ ขอให้ลงโทส.
จำเลยไห้การรับสารภาพ ต่อสู้ว่าฟ้องโจทเคลือบคลุม เพราะโจทไม่ได้กล่าวข้อความไนฟ้องไห้ชัดเจนว่า คนะกัมการท้องที่ไนจังหวัดนี้ได้ประกาสหวงห้ามไว้ มิไห้ขายเกินกว่ากลักละ ๒ สตางค์ และโจทไม่ได้กล่าวไนฟ้องว่าประกาสนั้นได้ประกาสเมื่อวันเดือนปีใด.
สาลชั้นต้นพิจารนาเห็นว่าฟ้องโจทไม่เคลือบคลุมพิพากสาลงโทสจำเลยตามพ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควน พ.ส. ๒๔๘๐ มาตรา ๗,๑๐,๑๒ และ พ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควน พ.ส.๒๔๘๓ ฉบับที่ ๒ มาตรา ๑๖.
จำเลยอุธรณ์ สาลอุธรณ์พิพากสายืน.
จำเลยดีกา สาลดีกาเห็นว่าข้อทุ่มเถียงของจำเลยที่ว่า โจทต้องระบุว่าคนะกัมการป้องกันการค้ากำไรเกินควนได้ประกาสแต่เมื่อวันเดือนปีได จำเลยได้กะทำผิดพายไนกำหนดวันประกาสหรือไม่นั้น ฟังไม่ขึ้นเพราะโจทได้กล่าวแล้วว่าคนะกัมการได้ประกาสไว้มิให้ขายเกินกว่ากลักละ ๒ สตางค์ โจทไม่จำเปนต้องกล่าวว่าได้ประกาสแต่วันเดือนปีได เพราะเมื่อมีประกาสแล้วจำเลยก็ต้องไม่ขายเกินราคาที่กำหนดไนประกาส ส่วนที่ว่าจำเลยจะไม่มีความผิดนั้น เปนหน้าที่จำเลยต้องยกขึ้นต่อสู้ ฟ้องโจทไม่เคลือบคลุม จึงพิพากสายืน