คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 702/2517

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยที่ 1 เป็นข้าราชการของกรมไปรษณีย์โทรเลขจำเลยที่ 2ในตำแหน่งบุรุษไปรษณีย์ มีหน้าที่ขับรถรับส่งไปรษณียภัณฑ์และรับส่งเงิน จำเลยที่ 2 อนุญาตให้จำเลยที่ 1 ขับรถยนต์ของจำเลยที่ 2รับส่งข้าราชการกรมไปรษณีย์โทรเลขนอกเวลาปฏิบัติงานปกติของทางราชการตามมติของข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ของจำเลยที่ 2 โดยจำเลยที่ 2 เห็นว่า เป็นประโยชน์ในการที่ข้าราชการกรมไปรษณีย์โทรเลขจะไม่ต้องมาปฏิบัติราชการสาย ทั้งอำนวยความสะดวกสบายและประหยัดแก่ข้าราชการ อันเป็นการให้สวัสดิการแก่ข้าราชการ และเป็นประโยชน์แก่ราชการของจำเลยที่ 2 ด้วย.ถือว่าจำเลยที่ 1 ทำงานตามทางการที่จำเลยที่ 2 จ้าง แม้จำเลยที่ 1 จะได้รับค่าจ้างพิเศษอีกเป็นรายเดือนเป็นค่าทำงานล่วงเวลาโดยจ่ายจากเงินค่าโดยสารซึ่งเจ้าหน้าที่ของจำเลยที่ 2 เรียกเก็บจากข้าราชการที่โดยสารรถยนต์นั้นก็หาเป็นเหตุให้การกระทำของจำเลยที่ 1 มิใช่ราชการของจำเลยที่ 2 ไม่
เมื่อข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในกรมไปรษณีย์โทรเลขจำเลยที่ 2ลงมติให้จัดรถรับส่งข้าราชการกรมไปรษณีย์โทรเลขเป็นสวัสดิการเพื่อประโยชน์ที่ข้าราชการจะได้มาปฏิบัติราชการทันเวลา อันเป็นประโยชน์แก่ราชการของจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 2 ก็อนุญาตให้จำเลยที่ 1 นำรถของจำเลยที่ 2 ไปบริการได้ตามที่ที่ประชุมลงมติการกระทำของจำเลยที่ 1 จึงเป็นการปฏิบัติงานในราชการของจำเลยที่ 2ซึ่งเป็นกรมเจ้าสังกัด หาอยู่นอกวัตถุประสงค์ของจำเลยที่ 2 ไม่เมื่อจำเลยที่ 1 ขับรถนั้นไปก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์จำเลยที่ 2 จึงต้องร่วมรับผิดด้วย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ ๑ เป็นลูกจ้างพนักงานของจำเลยที่ ๒ ได้ขับรถยนต์ ก.ท.ม. ๖๘๖๑ ของจำเลยที่ ๒ ในทางการที่จ้างของจำเลยที่ ๒ด้วยความประมาท ชนรถยนต์ ก.ท.ง. ๖๕๓๔ ของโจทก์เสียหายใช้การไม่ได้ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์พร้อมดอกเบี้ย
จำเลยที่ ๑ ขาดนัดยื่นคำให้การ
จำเลยที่ ๒ ให้การว่า รถ ก.ท.ม. ๖๘๖๑ เป็นของจำเลยที่ ๒ จริงแต่จำเลยที่ ๑ เป็นเพียงบุรุษไปรษณีย์ มีหน้าที่ส่งไปรษณีย์ภัณฑ์ให้แก่ประชาชนไม่ใช่พนักงานขับรถของจำเลยที่ ๒ รถ ก.ท.ม ๖๘๖๑ ข้าราชการกรมไปรษณีย์โทรเลขจัดเป็นรถรับส่งข้าราชการของจำเลยที่ ๒ เพื่อบรรเทาความเดือนร้อนเกี่ยวกับการเดินทางไปและกลับจากทำงานโดยเก็บเงินจากผู้โดยสารเป็นรายเดือนเพื่อเป็นเงินค่าจ้างจำเลยที่ ๑ให้เป็นคนขับนอกเวลาราชการ ไม่ใช่การปฏิบัติราชการในทางการที่จ้างของจำเลยที่ ๒ การจัดรถรับส่งผู้โดยสารเป็นการนอกวัตถุประสงค์ของจำเลยที่ ๒ ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองใช้ค่าเสียหายให้โจทก์๒๐,๐๐๐ บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องไปจนกว่าจะใช้เงินเสร็จ
จำเลยที่ ๒ อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ ๒ ฎีกา
ฎีกาที่ว่า การจัดสวัสดิการ จัดรถรับส่งข้าราชการกรมไปรษณีย์โทรเลขไม่ใช่ราชการของจำเลยที่ ๒ นั้น ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยที่ ๑ เป็นข้าราชการของจำเลยที่ ๒ ในตำแหน่งบุรุษไปรษณีย์มีหน้าที่ขับรถรับส่งไปรษณีย์ภัณฑ์และรับส่งเงิน ถึงแม้ว่าการขับรถรับส่งข้าราชการกรมไปรษณีย์โทรเลขจะเป็นการปฏิบัตินอกเวลาปฏิบัติงานตามปกติของทางราชการก็ตาม แต่จำเลยที่ ๒ ก็เป็นผู้อนุญาตให้จำเลยที่ ๑ขับรถนั้นตามมติของข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ของจำเลยที่ ๒ โดยจำเลยที่ ๒เห็นว่าเป็นประโยชน์ในการที่ข้าราชการกรมไปรษณีย์โทรเลขจะไม่ต้องมาปฏิบัติราชการสาย ทั้งอำนวยความสะดวกสบายและประหยัดแก่ข้าราชการอันเป็นการให้สวัสดิการแก่ข้าราชการ และเป็นประโยชน์แก่ราชการของจำเลยที่ ๒ ด้วย จึงต้องถือว่าจำเลยที่ ๑ ทำงานตามทางการที่จำเลยที่ ๒ จ้าง นอกจากนี้นางสาวอรุณ นายทองใสพยานจำเลยที่ ๒ ยังเบิกความว่าเสียเงินค่าโดยสารให้แก่จำเลยที่ ๒โดยเจ้าหน้าที่ของจำเลยที่ ๒ เป็นผู้รับเงินไว้ การที่จำเลยที่ ๑ได้รับค่าจ้างพิเศษอีกเดือนละ ๔๐๐ บาทนั้น ก็น่าจะเป็นเงินพิเศษค่าทำงานล่วงเวลา หาเป็นเหตุให้การกระทำของจำเลยที่ ๑ มิใช่ราชการของจำเลยที่ ๒ ไม่
ฎีกาที่ว่า กรมไปรษณีย์โทรเลขจำเลยที่ ๒ ไม่มีวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการจัดสวัสดิการของข้าราชการกรมไปรษณีย์โทรเลข ผู้จัดการและสมาชิกที่ลงมติให้มีกิจการอันนี้ต้องรับผิดเป็นส่วนตัวตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๗๖ วรรค ๒ นั้น ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงแห่งคดีฟังได้ว่า เมื่อข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในกรมไปรษณีย์โทรเลขได้ลงมติให้จัดรถรับส่งข้าราชการกรมไปรษณีย์โทรเลขเป็นสวัสดิการ เพื่อประโยชน์ที่ข้าราชการจะได้มาปฏิบัติราชการทันเวลาอันเป็นประโยชน์แก่ราชการของจำเลยที่ ๒ จำเลยที่ ๒ ก็อนุญาตให้จำเลยที่ ๑ นำรถของจำเลยที่ ๒ ไปบริการได้ตามที่ที่ประชุมได้ลงมติการกระทำของจำเลยที่ ๑ เป็นการปฏิบัติงานในราชการของจำเลยที่ ๒ซึ่งเป็นกรมเจ้าสังกัด หาอยู่นอกวัตถุประสงค์ของจำเลยที่ ๒ ไม่ เมื่อจำเลยที่ ๑ ได้ไปก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ จำเลยที่ ๒ จึงต้องร่วมรับผิดด้วย
ในประเด็นเรื่องค่าเสียหาย ศาลฎีกาเห็นว่าศาลล่างทั้งสองกำหนดให้เป็นการสมควรแล้ว
พิพากษายืน

Share