แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ย่อยาว
ผู้ร้าย ๑๐ คนกระทำการปล้นทรัพย์จับผู้ร้ายได้คนเดียว แลฟ้องต่อศาลๆ เดิมแลศาลอุทธรณ์ตัดสินให้ลงโทษฐานปล้น กับให้จำเลยใช้ทรัพย์ ๕๐๒ บาท ๕๐ สตางค์ให้แก่เจ้าทรัพย์ ถ้าจำเลยไม่มีเงินใช้ให้จำไถ่โทษในจำนวนเงินแต่เพียง ๕๐ บาท ๒๕ สตาง (คือแบ่งออกเปน ๑๐ ส่วน เท่าจำนวนผู้ร้าย)มีกำหนดวันละ ๑ บาท ตามฎีกาที่ ๙๓๑/๖๒
ศาลฎีกาตัดสินให้แก้คำพิพากษาศาลล่างเฉภาะเรื่องจำคุกแทนเงินนั้นว่า ถ้าจำเลยไม่ใช้ราคาทรัพย์ ๕๐๒ บาท ๕๐ สตางค์ ให้จำแทนวันละ ๑ บาท แต่ไม่ให้เกิน ๑ ปี ตามมาครา ๙๒ แล ๑๘ แลศาลฎีกาเห็นว่าการที่ไม่บังคับตามมาตรา ๑๘ คือให้จำคุกแบ่งออกเปนแต่จำคุกเพียง ๕๐ วันนั้นผิด ศาลบังคับไม่ได้ แลกล่าวต่อไปว่ากฎหมายมาตรา ๙๓ แล ๒๒ นั้นสำหรับใช้เฉภาะในคดีที่มีจำเลยถูกคำพิพากษาว่าได้กระทำผิดมาเฉภาะน่าศาลหลายคน ในคดีนี้จำเลยมาเฉภาะน่าศาลมีคนเดียว แลศาลพิพากษาให้จำเลยคนเดียวใช้ทุนทรัพย์ เพราะฉนั้นจึงควรบังคับตามมาตรา ๑๘