คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 952/2491

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องขอให้แสดงว่าที่เป็นของโจทก์ และ + โดยอ้างว่าได้มอบนาให้จำเลยทำและดูแลแทน ทำนาได้ข้าวแบ่งให้โจทก์ แต่โจทก์สืบพยานว่าให้จำเลยเช่านาทำโดยไม่มีหนังสือ ดังนี้ ไม่เป็นการผิดประเด็น เพราะทั้ง 2 ประการเป็นเรื่องของฝ่ายเข้าทำ ๆ โดยอาศัยอำนาจของโจทก์ การเข้าทำโดยอาศัยอำนาจของเจ้าของ จะอ้างสิทธิครอบครอง หาได้ไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า ได้ซื้อนา ๒ แปลงจากหลวงโภคาพิพัฒน์ ได้มอบให้จำเลยที่ ๑ ดูแลแทน และใช้ประโยชน์ในการทำนา ถ้าทำนาได้ข้าวก็แบ่งให้โจทก์ตามสมควร จำเลยที่ ๑ ขายฝากนาทั้ง ๒ แปลงให้แก่จำเลยที่ ๒ โดยจำเลยที่ ๒ รู้แล้วว่านาเป็นของโจทก์ ขอให้พิพากษาว่าที่นายเป็นของโจทก์ สัญญาขายฝากระหว่างจำเลยใช่ไม่ได้ และห้ามิให้จำเลยเกี่ยวข้อง
จำเลยที่ ๑ ให้การว่า จำเลยมิได้รับมอบหมายให้ดูแลที่นาแทนโจทก์ ที่นานี้เป็นของจำเลยโดยซื้อจากหลวงโภคา ฯ จำเลยที่ ๒ แก้ว่า ได้รับซื้อฝากที่นา ๑ แปลงจากจำเลยที่ ๑ โดยสุจริต
โจทก์นำสืบว่า ขุนบรรณ ฯ โจทก์ได้ซื้อนาพิพาท ๒ แปลงจากหลวงโภคา ฯ แล้วให้จำเลยที่ ๑ เช่า คิดค่าเช่าเป็นข้าวปีละ ๓๐ ปีบ หรือเป็นเงิน ๓๐ บาท แต่ไม่ได้ทำหนังสือสัญญาเช่าต่อกัน
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า โจทก์ฟ้องว่าได้มอบที่นาให้จำเลยที่ ๑ ดูแลแทนโจทก์ แต่พยานโจทก์ว่าให้จำเลยเช่า จึงวินิจฉัยว่าโจทก์สืบไม่สมฟ้อง และฟังข้อเท็จจริงตามคำพยานจำเลย พิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์เห็นว่า การนำสืบได้ความว่าเป็นการเช่าไม่ผิดประเด็น เพราะมีเหตุผลคล้ายคลึงกัน ฟังข้อเท็จจริงตามคำพยานโจทก์ พิพากษากลับว่าที่นา ๒ แปลงเป็นของโจทก์ สัญญาขายฝากใช้บังคับแก่ที่รายนี้ไม่ได้ ห้ามมิให้จำเลยเกี่ยวข้องที่นาพิพาท
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า คดีนี้เป็นเรื่องฟ้องขอให้แสดงว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ จะเป็นเพราะโจทก์ให้จำเลยดูแลแทน ทำนาได้ข้าวแบ่งให้บ้าง หรือว่าให้เช่าทำ ไม่สำคัญ เพราะทั้ง ๒ ประการเป็นเรื่องฝ่ายผู้เข้าทำ ๆ โดยอาศัยอำนาจโจทก์ การเข้าทำโดยอาศัยอำนาจเจ้าของ จะอ้างสิทธิครอบครองหาได้ไม่ พิพากษายืน

Share