คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7005/2559

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่จำเลยขอให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ในคดีที่โจทก์บรรยายฟ้องไว้ชัดแจ้งแล้วว่า จำเลยเป็นบุคคลคนเดียวกันกับจำเลยในคดีอาญาหมายเลขแดงของศาลชั้นต้นอีกคดีหนึ่ง และโจทก์มีคำขอท้ายฟ้องขอให้นับโทษคดีนี้ต่อจากโทษของจำเลยในคดีดังกล่าว ทั้งความก็ปรากฏต่อศาลชั้นต้นว่า คดีที่โจทก์ขอให้นับโทษต่อนั้น ได้มีคำพิพากษาตัดสินคดีแล้ว ศาลชั้นต้นย่อมมีอำนาจในการใช้ดุลพินิจนับโทษต่อได้ เพราะข้อเท็จจริงดังกล่าวปรากฏต่อศาลเอง โดยจำเลยไม่ได้แถลงหรืออุทธรณ์คัดค้านให้เห็นเป็นอย่างอื่น การที่ศาลชั้นต้นใช้ดุลพินิจนับโทษจำเลยต่อจากโทษจำคุกในคดีดังกล่าว จึงชอบแล้ว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 4, 7, 8, 57, 91 และนับโทษจำเลยต่อจากโทษของจำเลยที่ 1 ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 1262/2556 ของศาลชั้นต้น
จำเลยให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 57, 91 จำคุก 1 ปี จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 6 เดือน นับโทษต่อจากโทษของจำเลยที่ 1 ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 1262/2556 ของศาลชั้นต้น
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์แผนกคดียาเสพติดพิพากษาแก้เป็นว่า ไม่นับโทษคดีนี้ต่อจากโทษของจำเลยในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 1262/2556 ของศาลชั้นต้น นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา โดยได้รับอนุญาตจากศาลฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า ที่ศาลอุทธรณ์ไม่นับโทษจำเลยต่อจากโทษของจำเลยในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 1262/2556 ของศาลชั้นต้น ชอบหรือไม่ โดยโจทก์ฎีกาว่า คดีนี้จำเลยให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา เท่ากับจำเลยยอมรับว่าจำเลยเป็นบุคคลคนเดียวกับจำเลยในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 1262/2556 ของศาลชั้นต้นตามที่โจทก์ขอนับโทษต่อด้วยนั้น เห็นว่า คดีนี้โจทก์บรรยายฟ้องไว้ชัดแจ้งแล้วว่า จำเลยเป็นบุคคลคนเดียวกันกับจำเลยในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 1262/2556 ของศาลชั้นต้น และคำขอท้ายฟ้องได้ขอให้นับโทษคดีนี้ต่อจากโทษของจำเลยในคดีดังกล่าว หลังจากศาลชั้นต้นอ่านอธิบายฟ้องทั้งหมดให้จำเลยฟัง จำเลยก็ได้ยื่นคำให้การว่าทราบฟ้องของโจทก์แล้ว จำเลยขอให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ทั้งความก็ปรากฏต่อศาลชั้นต้นว่า คดีที่โจทก์ขอให้นับโทษต่อนั้น ศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษาจำคุกจำเลยแล้วเป็นคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 1262/2556 เช่นนี้ ศาลชั้นต้นย่อมมีอำนาจในการใช้ดุลพินิจนับโทษต่อได้เพราะข้อเท็จจริงดังกล่าวปรากฏต่อศาลเอง โดยจำเลยไม่ได้แถลงหรืออุทธรณ์คัดค้านให้เห็นเป็นอย่างอื่นแต่อย่างใด การที่ศาลชั้นต้นใช้ดุลพินิจนับโทษจำเลยต่อจากโทษจำคุกในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 1262/2556 ของศาลชั้นต้น จึงชอบแล้ว ที่ศาลอุทธรณ์ไม่นับโทษคดีนี้ต่อจากโทษในคดีดังกล่าวมานั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ฟังขึ้น ส่วนฎีกาข้ออื่นของโจทก์ไม่จำต้องวินิจฉัย เพราะไม่ทำให้ผลคดีเปลี่ยนแปลงไป
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้นับโทษจำคุกของจำเลยในคดีนี้ต่อจากโทษจำคุกของจำเลยในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 1262/2556 ของศาลชั้นต้น นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share