แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การที่พัสดีมอบให้ผู้คุมเรือนจำซื้อขนมขายในเรือนจำนั้นเป็นการค้าส่วนตัว มิใช่ให้ทำการในหน้าที่ตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 319(3)
บัญชีที่ทำยังไม่เรียบร้อย จึงแก้บัญชีนั้นเพื่อให้ถูกต้องโดยสุจริตไม่มีผิดฐานปลอมหนังสือ
ในคดียักยอกอันเป็นความผิดต่อส่วนตัว ข้าหลวงประจำจังหวัดในฐานะเป็นผู้บัญชาการเรือนจำมีอำนาจยอมความได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นผู้คุมเรือนจำ พัสดีเรือนจำมอบหมายให้จำเลยมีหน้าที่รับขนมจากผู้ขายนอกเรือนจำมาขายให้แก่ผู้ต้องขังในเรือนจำ ส่วนกำไรให้นำลงบัญชีและเก็บเงินไว้เป็นรายได้ของเรือนจำจำเลยบังอาจยักยอกเงินรายนี้ไปใช้เป็นประโยชน์ส่วนตัว และบังอาจแก้และทำลายบัญชีทางรายการซึ่งเป็นหนังสือสำคัญของเรือนจำเพื่อลดจำนวนรายได้ให้น้อยลง ซึ่งอาจเกิดความเสียหายแก่นายอบพัสดีได้ ขอให้ลงโทษ
จำเลยให้การว่า ได้เอาเงินกำไรไปใช้จริง และได้ชำระเงินจำนวนนี้ให้แก่เรือนจำเสร็จสิ้นแล้ว โดยผู้บัญชาการเรือนจำตกลงว่าจะไม่ฟ้องจำเลย และแถลงว่า การขายขนมเป็นการกระทำพิเศษ ไม่เกี่ยวแก่หน้าที่ราชการ ส่วนข้อหาว่าแก้และทำลายบัญชีบางรายการนั้นรับว่าจริง
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยต้องกันกับศาลอุทธรณ์ว่า การขายขนมไม่ใช่อยู่ในหน้าที่ของจำเลย จะยกมาตรา 319 มาใช้ปรับไม่ได้ส่วนข้อหาตามมาตรา 314 ก็ได้ความว่าผู้บัญชาการเรือนจำไม่ได้เอาความกับจำเลยแล้ว สิทธิในการฟ้องคดีย่อมระงับตาม มาตรา 39 ในข้อปลอมหนังสือนั้นจำเลยได้แก้ต่อหน้านายสุวรรณ เนื่องจากบัญชียังไม่เรียบร้อย เป็นการแก้หนังสือของจำเลยเองโดยสุจริต ไม่มีเจตนาปลอมพิพากษาให้ยกฟ้อง
ศาลฎีกาเห็นว่า การที่พัสดีมอบหน้าที่ให้จำเลยซื้อขนมมาขายในเรือนจำเป็นเรื่องการส่วนตัว มิใช่เรื่องให้ทำการในหน้าที่ตาม มาตรา 319(3) ส่วนการยอมความ ผู้บัญชาการเรือนจำย่อมทำได้ไม่ผิดกฎหมาย เพราะเงินรายนี้เป็นเงินกองกลางของเรือนจำ และข้าหลวงก็เป็นผู้บัญชาการเรือนจำมีอำนาจหน้าที่บังคับบัญชาการเรือนจำนั้น ในข้อที่จำเลยแก้บัญชี จำเลยได้ทำไปโดยสุจริตไม่มีเจตนาปลอม จะเอาผิดจำเลยไม่ได้ พิพากษายืน