แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การที่คู่สัญญาตกลงกันกำหนดวันใดวันหนึ่งให้ไปทำการโอนขายที่ดิน ก็เป็นข้อตกลงที่ใช้ได้ เมื่อฝ่ายใดบิดพลิ้วได้ชื่อว่าผิดนัด ไม่จำต้องรอไปจนสิ้นกำหนดตามข้อสัญญาเดิม
ในสัญญาจะขายที่ดิน การที่โจทก์สืบว่าจำเลยจะเอาที่ไปขายให้ผู้อื่น ไม่เป็นเรื่องนอกฟ้องนอกประเด็น เป็นการสืบถึงเหตุประกอบข้อเจตนาบิดพลิ้วของจำเลย
ในข้อสัญญากำหนดเบี้ยปรับไว้เมื่ออีกฝ่ายผิดสัญญา ยังไม่เพียงพอให้สันนิษฐานว่า ผู้ซื้อจะเรียกได้แต่เพียงเบี้ยปรับในเมื่อผู้ขายผิดสัญญา ป.ม.แพ่ง ฯ ม.380 ได้ให้สิทธิ์เจ้าหนี้เลือกเรียกเบี้ยปรับ หรือเลือกเรียกร้องให้ลูกหนี้ชำระหนี้แต่อย่างใดอย่างหนึ่งได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยขายที่ดินให้โจทก์ โดยจำเลยได้ทำสัญญาจะขายที่ดินให้โจทก์เป็นเงิน ๓๘๐๐ บาท จำเลยได้รับเงินมัดจำไว้ ๓๐๐ บาทแล้วและสัญญาจะไปโอนกรรมสิทธิที่หอทะเบียนที่ดินในเดือนพฤศจิกายน ๒๔๘๗ แล้วไม่ไป จึงขอให้ศาลบังคับ
จำเลยให้การว่า ได้ทำสัญญาจะขายที่ดินและรับเงินมัดจำจากโจทก์ไว้จริง แต่จำเลยมีสิทธิ์ที่จะไม่ขายที่ดินให้โจทก์ก่อนสิ้นเดือน จำเลยขอเลิกสัญญาและขอคืนเงินมัดจำให้โจทก์
ศาลชั้นต้นเห็นว่า สัญญาข้อ ๓ มีว่า “ผู้ซื้อสัญญาว่าเงินที่เหลือนั้นจะโอนกรรมสิทธิณหอทะเบียนที่ดินนนทบุรีภายในเดือนพฤศจิกายน ๒๔๘๗ นี้ให้เสร็จ” เป็นสัญญาต่างตอบแทนกัน เมื่อโจทก์ได้ตกลงมัดกับจำเลยให้ไปโอนทะเบียนภายในเดือนพฤศจิกายน ๒๔๘๗ มากกว่า ๑ ครั้ง จำเลยก็ไม่ไปทั้งได้เสนอขายที่ดินแปลงนี้ให้คนอื่น ชื่อว่าจำเลยผิดสัญญาและเห็นว่าคดีนี้คู่ความมีเจตนาจะซื้อขายที่ดินรายนี้ กับไม่ประสงค์จะเอาค่าปรับ จึงพิพากษาให้จำเลยทำการโอนขายที่ดินแปลงนี้ให้โจทก์
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่าโจทก์ไม่ได้อ้างเหตุอันเป็นข้อยกเว้นอย่างใดตาม ม.๑๕๕ โจทก์นำคดีมาฟ้องเมื่อ ๒๐ พฤศจิกายนซึ่งยังอยู่ในกำหนดเงื่อนไขเวลา โจทก์ฟ้องไม่ได้ และที่โจทก์นำสืบว่าจำเลยเอาที่ไปบอกขายให้ผู้อื่นเป็นเรื่องนอกฟ้องยอมประเด็น โจทก์สืบไม่ได้ พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยได้บิดพลิ้วไม่ยอมไปทำการโอนทะเบียนขายให้โจทก์ตามสัญญา ทั้งโจทก์ยังสืบได้ว่าจำเลยได้ไปเสนอขายให้ผู้มีชื่อ จริงอยู่ตามสัญญามีกำหนดให้ไปทำการโอนภายในเดือนพฤศจิกายน แต่เมื่อคู่สัญญาตกลงกันกำหนดวันใดวันหนึ่งเป็นวันไปทำการโอนก็เป็นข้อตกลงที่ใช้ได้ เมื่อฝ่ายใดบิดพลิ้วได้ชื่อว่าผิดนัด ไม่จำต้องรอไปจนสิ้นเดือน ที่โจทก์สืบว่าจำเลยได้ไปเสนอขายผู้อื่นนั้นเป็นการสืบถึงเหตุประกอบไปข้อเจตนาบิดพลิ้ว ไม่ใช่ฟ้องนอกประเด็น ปัญหาว่าจะบังคับให้จำเลยขายหรือเพียงอต่ปรับตามสัญญาข้อ ๔ พิเคราะห์แล้วเห็นว่า การที่คู่สัญญากำหนดเบี้ยปรับ+ไว้เท่านั้น ยังไม่เพียงพอให้สันนิษฐานว่า ผู้ซื้อประสงค์จะเรียกร้องเอาค่าปรับเมื่อผู้ขายผิดสัญญาประมวลแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๕๖๐ ไว้ให้สิทธิเจ้าหนี้เลือกเรียกเอาเบี้ยปรับหรือเรียกร้องให้ลูกหนี้ชำระหนี้แต่อย่างใดอย่างหนึ่งได้ ตามแบบอย่างฎีกาที่ + จึงพิพากษากลับให้จำเลยทำการโอนขายที่ดินให้โจทก์